กรมสุขภาพจิตเผย ปชช. โทรศัพท์ปรึกษาความเครียดจากการเมืองเพิ่มขึ้น 68%

05 เม.ย. 2562 | 04:28 น.


กรมสุขภาพจิตเผยสถิติประชาชนโทรศัพท์ปรึกษาสายด่วน 1323 เรื่องความเครียดจากการเมือง เพิ่มขึ้นร้อยละ 68 แนะรับฟังความคิดที่แตกต่างได้ แต่ไม่แตกแยก

 

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต

 

นายแพทย์ เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยรายงานสถิติการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ สายด่วน 1323 ในรอบเดือน ก.พ. ถึง มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา พบว่า มีการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต รวมจำนวน 13,229 ครั้ง โดยปัญหาด้านสุขภาพจิตที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ปัญหาทางจิตเวช ร้อยละ 39.02, อันดับที่ 2 ความเครียด/วิตกกังวล ร้อยละ 27, อันดับที่ 3 ปัญหาความรัก ร้อยละ 8.74, อันดับที่ 4 ปัญหาซึมเศร้า ร้อยละ 6.89 และอันดับที่ 5 ปัญหาครอบครัว ร้อยละ 5.59 และจำนวนประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาปรึกษาในภาพรวมทั้งหมด เปรียบเทียบจากเดือน ก.พ. และ มี.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า หากวิเคราะห์ข้อมูลในรายเดือนจะพบว่า ผู้ที่โทรศัพท์ปรึกษาเฉพาะเรื่องความเครียดและวิตกกังวลจากการเมืองในช่วงเดือน ก.พ. 2562 มีจำนวน 22 ราย และเดือน มี.ค. 2562 มีจำนวน 37 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 68 เนื่องจากเป็นช่วงของการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนใหญ่เกิดความเครียด จากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมืองระหว่างคนใกล้ชิด คนในครอบครัว หรือ เพื่อนร่วมงาน ทำให้รู้สึกเครียด จึงโทรศัพท์มาปรึกษาพูดคุยเพื่อระบายความเครียด โดยขณะนี้ กรมสุขภาพจิตกำลังติดตามเรื่องความเครียดจากการเมืองอย่างใกล้ชิด

ในสังคมประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่แตกแยก สามารถอยู่ร่วมกันได้ เน้นรับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นด้วยความเคารพและให้เกียรติกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสมและวิตกกังวลจนเกินไป ควรมีการติดตามข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองอย่างพอดี เปิดกว้างรับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ไม่รับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียว ทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ และมีการผ่อนคลายความเครียด ทั้งนี้ หากยังมีความเครียดและวิตกกังวลอยู่ สามารถโทรมาขอรับบริการปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ขอรับบริการด้านสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัดกรมสุขภาพจิตได้ทุกแห่งทั่วประเทศ