โตโยต้าลุยตลาดรถเอ็มพีวีเต็มสูบ เตรียมเปิดตัวออล นิว อินโนวา ใหม่ 30 ก.ย.นี้ หลังเซียนต้า เอ็มพีวีเล็กติดลมบน ยอดจองล้นถึงพ.ย. หอการค้าญี่ปุ่นชี้ ตลาดเอ็มพีวี-เอสยูวีในไทยขยายตัวพรวดถึง 32 %
แหล่งข่าวจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่โตโยต้านำเข้ารถเอ็มพีวีหรือรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก อย่างเซียนต้า ประกอบที่ประเทศอินโดนีเซีย และมียอดจองยาวถึงเดือนพฤศจิกายนแล้ว ล่าสุด เตรียมเปิดตัวเอ็มพีวีขนาดกลาง ออล นิว อินโนวา ใหม่ นำเข้าจากอินโดนีเซีย ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2559 หลังจากที่โตโยต้า อินโนวา โฉมใหม่ อวดโฉมต่อสื่อมวลชนเมืองอิเหนาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา การนำเข้าออล นิว อินโนวา ใหม่ อาศัยข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า ที่โตโยต้าสามารถแลกเปลี่ยนรถยนต์ตามแหล่งผลิตต่างๆในประเทศกลุ่มอาเซียน โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งปกติแล้ว ไทยค่อนข้างจะได้เปรียบในการส่งออกรถไปอินโดนีเซียเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องนำเข้าโตโยต้า อินโนวาใหม่ มาจำหน่ายในไทยเพื่อเป็นการถ่วงดุลกัน
สำหรับรูปโฉมของโตโยต้า อินโนวาใหม่ มีการออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัย ลงตัวมากขึ้น โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า โปรเจคเตอร์แบบแอลอีดี ตามสมัยนิยม เสริมไฟส่องกลางวันแอลอีดี เดย์ไลต์ ไฟท้ายปรับใหม่แบบแอลอีดี ห้องโดยสารปรับใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัย หรูหราด้วยมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ไฟรอบห้องโดยสาร Illumination LED ระบบปรับอากาศแยกโซนให้ความเย็นสบายตลอดห้องโดยสาร หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับระบบเชื่อมต่อบลูทูธ โทรศัพท์ไร้สาย ที่สามารถสั่งการได้ด้วยเสียง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน โต๊ะอเนกประสงค์ ระบบปิดประตูท้ายอัตโนมัติ
ขุมพลังของอินโนวา ใหม่ที่จำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่โตโยต้าใส่ไว้ในรถกระบะไฮลักซ์ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ให้กำลังสูงสุด 149 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาทีให้แรงบิดสูงสุด 358 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200 -2,600 รอบ/นาทีส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดจะให้แรงบิด 342 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200 -2,800 รอบ/นาที นอกจากนี้ ยังมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I รุ่น 1TR-FE 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที ให้แรงบิด สูงสุด 183 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดมิติของโตโยต้า อินโนวา ใหม่ ยาว 4,735 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,795 มม. ฐานล้อยาว 2,750 มม. ระบบกันสะเทือนล้อหน้าแบบ คานปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหลังแบบโฟร์ลิงค์และคอยล์สปริง ระบบความปลอดภัยระบบป้องกันเบรกล็อก เอบีเอสและระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก
ด้านหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ หรือเจซีซี เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในไทยตั้งแต่เดือนมกราคม- กรกฎาคม 2559 พบว่าทำได้ทั้งสิ้น 429,242 คัน ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 429,972 คัน โดยโตโยต้า มียอดขาย 129,190 คัน ลดลง 11.3 % ,อีซูซุ มียอดขาย 82,953 คัน เพิ่มขึ้น 3.3% ,ฮอนด้า มียอดขาย 63,053 คัน ลดลง 0.4% ,มิตซูบิชิ มียอดขาย 31,775 คัน เพิ่มขึ้น 15.3 % ,นิสสัน มียอดขาย 26,322 คัน ลดลง 9.5 % , มาสด้า มียอดขาย 24,634 คัน เพิ่มขึ้น 24.7% , ฟอร์ด มียอดขาย 21,525 คัน เพิ่มขึ้น 26.7% , ซูซูกิ มียอดขาย 12,655 คัน เพิ่มขึ้น 3.5% , และเชฟโรเลต มียอดขาย 7,912 คัน ลดลง 11.6%
ทั้งนี้เซกเมนต์รถเอนกประสงค์และรถดัดแปลงมีอัตราการขยายตัวมากที่สุด โดยมียอดขายรวม 65,439 คัน เพิ่มขึ้น 32.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 49,526 คัน เมื่อแยกย่อยเฉพาะเซกเมนต์รถดัดแปลง มียอดขาย 36,362 คัน เพิ่มขึ้น 90 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่มียอดขาย 19,139 คัน โดยในกลุ่มนี้โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์มียอดขาย 16,852 คัน เพิ่มขึ้น 134.6% ,มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต 10,616 คัน เพิ่มขึ้น 161.4% ,อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 4,555 คัน ลดลง 35.4% ,ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ 3,775 คัน เพิ่มขึ้น 8,288.9 % ส่วนในเซกเมนต์รถเอนกประสงค์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ทำยอดขายสูงสุด 8,826 คัน ลดลง 39.3% ,ฮอนด้า บีอาร์-วี 6,681 คัน และมาสด้า ซีเอ็กซ์- 3 จำนวน 3,250 คัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,193 วันที่ 18 - 21 กันยายน พ.ศ. 2559