นิสสันพร้อมรับรถพลังงานไฟฟ้า ครม.ไฟเขียวหนุนเป็นทางการ

04 ส.ค. 2559 | 07:00 น.
นายคะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดจำหน่าย นิสสันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2559 ว่ามียอดขายรวมมากกว่า 2.3 หมื่นคัน แบ่งเป็นอีโคคาร์ 35% ปิกอัพ 43% โดยตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดของปีงบประมาณ 2559 (เมษายน 2559 – มีนาคม 2560) ไว้ 7% สำหรับตลาดรถยนต์รวมในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยปัจจัยบวกจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของค่ายต่างๆ งานแสดงและจำหน่ายรถยนต์ ทั้ง งานบิ๊ก มอเตอร์ เซล, งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร์ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของค่ายต่างๆ โดยนิสสันคาดว่าตลาดรถยนต์รวมจะอยู่ที่ประมาณ 7.4 แสนคัน

"สำหรับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น ทางนิสสัน พร้อมให้การสนับสนุน เพราะมีโนว์ฮาวพร้อมอยู่แล้ว โดยปัจจุบัน นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายอันดับต้นๆของโลก มียอดขายไปแล้ว 2.4 แสนคัน นอกจากนี้ ยังนิสสัน เอ็นวี 200 อีวี รถแวนสำหรับโดยสาร จึงเห็นด้วยกับรัฐบาลที่เริ่มจุดประกายแนวคิดการใช้รถประเภทนี้ในไทยซึ่งจะเป็นเทรนด์อนาคตสำหรับการใช้รถของผู้คนทั่วโลก"

ด้านนายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ที่ประชุมครม. วันที่ 2 สิงหาคมนี้ เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า(อีวี)ในประเทศไทย ตามที่ ก.อุตสาหกรรมเสนอ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดออกมาตรการสนับสนุนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งเร่งรัดการนำรถโดยสารไฟฟ้ามาใช้งานจริงภายในพฤศจิกายน 2559 นี้ตามข้อสั่งการของนายกฯ

โดยบริษัทที่สนใจจะลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ต้องยื่นแผนดำเนินงานในลักษณะแผนงานรวม(Package) ประกอบด้วย แผนลงทุนประกอบรถไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญ เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า เป็นต้น จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้ และสิทธิประโยชน์ภาษีอื่นๆ

เมื่อบริษัทได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว สามารถนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป(CBU) โดยได้รับลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้า ในรุ่นรถยนต์ที่จะผลิต เพื่อนำมาทดลองทำตลาดในปริมาณที่กำหนด รวมทั้งได้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อน หรือยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนสำคัญ ซึ่งยังไม่มีการผลิตในประเทศในช่วงเริ่มต้น ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของปริมาณการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนที่จะได้รับสิทธิลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้าของบริษัทที่สนใจลงทุนต่อไป

พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำมาตรฐานรถยนต์นั่งไฟฟ้า การกำหนดมาตรฐานขนาดสายไฟ เบรกเกอร์ หม้อแปลงที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยในการชาร์จแบตเตอรี่ที่บ้าน การพิจารณามาตรการสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ สามารถจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ รวมทั้งมาตรการรองรับด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการกำจัดซากแบตเตอรี่ด้วย

ทั้งนี้ นายศิริรุจย้ำว่า การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้านั้น เพื่อเตรียมพร้อมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทันการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลย้ำว่า ยังคงให้การส่งเสริมรถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะอีโคคาร์และรถกระบะ 1 ตัน ซึ่งเป็นโปรดักต์ แชมเปี้ยน ของไทย รวมทั้งรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก ซึ่งเริ่มมีการผลิตในไทยแล้วควบคู่กันไปด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,180 วันที่ 4 - 6 สิงหาคม พ.ศ. 2559