BMW Driving Experience 2016 ประลองกำลังขุมพลังอนาคต

13 มิ.ย. 2559 | 15:00 น.
เมื่อเร็วๆนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดกิจกรรมBMW Driving Experience 2016 ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์เพื่อร่วมสัมผัสขุมพลังแห่งสมรรถนะอันแข็งแกร่งที่มาพร้อมดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว กับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น BMW 118i M Sport, BMW 320d Luxury, BMW320d Sport, BMW525d M Sport และ BMW330e M Sport ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด

[caption id="attachment_61834" align="aligncenter" width="500"] เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด[/caption]

การทดสอบเป็นจิมคาน่า บทเรียนแรก เริ่มที่ BMW118i M Sport ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเทคโนโลยี บีเอ็มดับเบิลยูทวินพาว เวอร์เทอร์โบขนาด 1.5ลิตรให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้าที่ 4,500-6,000 รอบต่อวินาที จึงเร่งความเร็วจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 8.7 วินาที มาพร้อมชุดตกแต่งพิเศษ M Sport ที่มีทั้งล้ออัลลอยM Sport ขนาด 18 นิ้ว สีเทา Ferric Greymetallic แถบตกแต่งคอนโซลอะลูมิเนียมลายHexagon ชุดแต่ง M Aerodynamic พร้อมด้วยเส้นสายขอบหน้าต่างสีดำเงาแบบ M และพวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบ M Sport ด้วยขนาดและระบบขับเคลื่อนของ BMW118i M Sport เหมาะมากสำหรับการขับขี่แบบจิมคาน่า ทั้งสลาลม ขับวนรอบกรวยเป็นเลขแปด ระบบช่วยในการทรงตัว DSC ทำงานอย่างต่อเนื่อง ช่วยควบคุมไม่ให้เกิดอาการหน้าดื้อ เกาะโค้งหนึบแน่นตามความต้องการ รวมทั้งการวิ่งเกาะโค้งดูดเอเพ็กซ์ แล้วบานปลาย ด้วยความเร็วสูง ปิดด้วยการทดสอบปฏิกิริยาความไวความคมของพวงมาลัย ด้วย การขับขี่เลนเชนจ์ทันที ที่ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

[caption id="attachment_61832" align="aligncenter" width="500"] BMW525d M Sport BMW525d M Sport[/caption]

จบจากน้องเล็กตัวจิ๊ด ผมมาต่อด้วยพี่ใหญ่ อย่าง BMW525d M Sport ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว เทคโนโลยีBMWTwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุดที่ 160 กิโลวัตต์ต่อ 218 แรงม้า พร้อมแรงบิด 450นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งได้อย่างใจนึกจาก 0-100 กิโลเมตรภายใน 6.9 วินาที และยังประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 17.9 กิโลเมตรต่อลิต รกับอัตราการปล่อย CO2ที่ 149 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น

ตัวสุดท้าย ที่ได้ลองขับคือ BMW330e M Sport รถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด รุ่นถัดจาก BMW i8 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ BMW TwinPower Turbo 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด 290 นิวตัน-เมตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 88 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ให้สมรรถนะที่พร้อมตอบสนองในเสี้ยววินาทีด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า ทำงานประสานกันกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยสามารถเลือกขับขี่โดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สำคัญมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 57 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น นับว่าเป็นอัตราที่น้อยที่สุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยสำหรับประเภทรถยนต์นั่งซีดาน

ผมได้ทดสอบ เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ในBMW330e M Sport ที่ ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และวิ่งโดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยไม่ปล่อยมลพิษออกจากท่อไอเสียเลยในระยะ 40 กม. แบตเตอรี่สามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง หรือควักเงินอีกกว่าแสนบาทซื้อบีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์เพียว(BMW iWallbox Pure) ติดที่บ้านช่วยชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 12 นาที

[caption id="attachment_61833" align="aligncenter" width="500"] BMW Driving Experience 2016 BMW Driving Experience 2016[/caption]

เทคโนโลยียานยนต์กำลังมุ่งมั่นไปสู่อนาคต ที่พัฒนายนตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่สะอาดอย่างแท้จริง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,165 วันที่ 12 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559