ฮุนไดกางแผนลุยตลาดครึ่งปีหลัง ชูกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งสนับสนุนฟุตบอลยูโร พร้อมแง้มแผนไตรมาส 4 เตรียมส่งรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบรถขนาดเล็กและพลังงานทางเลือก มั่นใจยอดขายสิ้นปีเข้าเป้า 4.3 พันคัน
นายโยชิกาซึ โคนิชิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮุนได อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์การตลาดในครึ่งปีหลังได้มีจัดแคมเปญพิเศษ ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 โดยลูกค้าที่จองรถยนต์ฮุนได ทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2559 จะได้รับข้อเสนออาทิ กระเป๋าสปอร์ต ยูโร 2016 , ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน และประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี
ขณะที่แผนงานเกี่ยวกับรถรุ่นใหม่ ในตอนนี้บริษัทกำลังมีการศึกษาและเตรียมความพร้อมเพื่อนำรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวสู่ตลาดอีก 1 รุ่น ในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่จะมีขึ้นช่วงปลายปี โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นรถยนต์นั่ง ที่รองรับพลังงานทางเลือก
นายโคนิชิ กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงาน 4 เดือนแรกของปี 2559ว่าฮุนไดทำยอดขายได้ประมาณ 1 พันคัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายลดลงเป็นผลมาจากภาพรวมอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับการปรับราคาใหม่ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่มีผลตั้งแต่มกราคม ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้วฮุนได เอช-วัน ก็อยู่ในช่วงปลายโมเดล และสต๊อกหมด ทำให้ยอดขายโดยรวมลดลง
อย่างไรก็ตามหลังจากบริษัทฯเปิดตัวฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา หรือในงานมอเตอร์โชว์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนแบ่งการตลาด 4 เดือนที่ผ่านมาของฮุนได เอช-วัน พบว่ามีกว่า 70% ของตลาดเอ็มพีวี และบริษัทคาดว่าในปี 2559 ฮุนไดเอช-วัน จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 60% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 52% จากตลาดรวมของรถประเภทนี้ที่มีความต้องการระดับ 5 – 6 พันคันต่อปี
"เรามั่นใจว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดรถเอ็มพีวี 5 ปีซ้อนได้อย่างแน่นอน เพราะยอดจองของเอช-วัน หลังจากเปิดตัวในเดือนมีนาคมมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการปรับภาพลักษณ์ ,มีการใส่ออพชันต่างๆอาทิ เกียร์อัตโนมัติ ทำให้ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น "
นายโคนิชิ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกลยุทธ์เชิงรุกที่ได้เตรียมไว้ ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าจะรักษาเป้าหมายยอดขายในปี 2559 ที่ได้วางไว้ 4.3 พันคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขายได้ 4.2 พันคัน โดยแบ่งสัดส่วนการขายออกเป็นรถเอ็มพีวี เอช-วัน 60% , เอลันตร้า 15% ,แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ 15% และ รุ่นอื่นๆ 10%
"เรายังมีความมั่นใจในสภาพตลาดรถยนต์ว่าลูกค้ามีกำลังซื้อ เพียงแต่ว่าลูกค้ามีการชะลอการตัดสินใจ ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะรอดูสถานการณ์ต่างๆ อาทิ เศรษฐกิจ ,การเมือง ถ้าทุกอย่างนิ่งหรือมีความชัดเจนการตัดสินใจซื้อก็อาจจะกลับมา เช่นเดียวกับบริษัทก็มีการจับตาสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะนโยบายจากภาครัฐไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งเสริมการลงทุน หรือนโยบายอื่นๆ"
นายโคนิชิ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดอาเซียนว่าโดยรวมยอดขายของฮุนไดมีเพิ่มสูงขึ้น และขยายตัวอย่างมากในประเทศมาเลเซีย ,เวียดนาม ,ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจากแนวโน้มที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้บริษัทฯแม่พิจารณาขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์แบบซีเคดีในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น
"จากการเก็บข้อมูลพบว่า ความต้องการรถฮุนไดในอาเซียนปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 5 หมื่นคัน ซึ่งหากตัวเลขการขายรวมกันมีถึง 1 แสนคัน ก็น่าจะมีการพิจารณาขึ้นไลน์ประกอบในไทย เพราะประเมินแล้วว่ามีความคุ้มค่าในการลงทุน อีกทั้งจะเพิ่มความคล่องตัวในการทำตลาดของฮุนไดในภูมิภาคนี้ให้ดีขึ้น และเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ที่จะมีส่วนผลักดันให้การค้าขายหรือการคมนาคมขนส่งกันในภูมิภาคนี้มีการเติบโต"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,165 วันที่ 12 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559