ซูบารุ มั่นใจยอดขายเข้าเป้า 6 พันคัน แม้ 5 เดือนทำยอดขาย 1.5 พันคัน ชี้ไตรมาส 3 – 4 ปัจจัยบวกเพียบทั้ง การปรับราคาใหม่ – กลยุทธ์สื่อสารการตลาดอย่างเข้มข้น รวมไปถึงอานิสงค์รถคันแรกที่จะครบรอบตามเงื่อนไข เชื่อกลุ่มนี้จะซื้อรถใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
นายตวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานตั้งแต่ราคม-
พฤษภาคม 2559 มียอดขายทั้งสิ้น 1.5 พันคัน โดยตัวเลขการขายเฉลี่ยเดือนละ 250 คัน อย่างไรก็ตามประเมินว่าหลังจากเดือนนี้เป็นต้นไปยอดขายจะเริ่มเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากรถรุ่นใหม่อย่างฟอเรสเตอร์ เพิ่งเริ่มทยอยส่งมอบในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนเอ็กซ์วี ก็เริ่มทยอยส่งมอบในเดือนมีนาคม
นอกจากนั้นแล้วปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่าจะมียอดขายเติบโตก็มาจาก บริษัทฯแม่ตันจงมีการสนับสนุนด้านราคา ทำให้ราคาจำหน่ายมีการดึงดูดและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้าที่ต้องการรถประเภทนี้
"แผนงานด้านผลิตภัณฑ์ ในปีที่ผ่านมามีโมเดลหลักคือเอ็กซ์วี ที่เพิ่งเปิดตัวปลายปีรุ่นเดียว พอมาถึงปีนี้มีการเปิดตัวฟอเรสเตอร์อีก 1 รุ่น ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี และล่าสุดเราก็มีปรับราคาใหม่ เริ่มตั้งแต่รุ่นเอ็กซ์วี ที่ขาย 9.98 แสนบาท จากเดิมที่ขาย 1.198 ล้านบาท หรือราคาตั้งแต่ตอนเปิดตัวครั้งแรกคือ 1.35 ล้านบาท ส่วนฟอเรสเตอร์ราคาปัจจุบัน 1.198 -1.398 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่จำหน่ายราคา 1.398 -1.498 ล้านบาท ซึ่งการปรับราคาดังกล่าวเราก็มีการดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าเก่า โดยมีการมอบโปรแกรมพิเศษให้กับลูกค้าเหล่านั้น"
นายตวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่สนับสนุนเป้าหมายของซูบารุยังประกอบไปด้วยความพร้อมด้านเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาที่ให้บริการจำนวน 25 แห่ง และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 30 แห่ง นอกจากนั้นแล้วบริษัทฯยังเร่งปรับปรุงบริการหลังการขาย และความพร้อมด้านอะไหล่อย่างต่อเนื่อง ด้านกลยุทธ์การตลาด มีการทำแคมเปญพิเศษ รวมไปถึงการสื่อสารในรูปแบบต่างๆโดยบริษัทฯมีการใช้งบประมาณตรงส่วนนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมโรดโชว์ รวมไปถึงการเข้าร่วมงานอีเว้นท์ใหญ่ๆอาทิ ออโต้ ซาลอน, บิ๊ก มอเตอร์ เซลส์ และมอเตอร์เอ็กซ์โป ทั้งนี้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
"เรามีการจัดแคมเปญพิเศษ SUBARU EXECUTIVES’ CAR DAY ด้วยการนำรถยนต์เอกเซคคิวทีฟคาร์ (Executives’ car), รถยนต์เพื่อการจัดแสดง (Display car) และรถทดลองขับ (Test drive car) ป้ายแดงสภาพดีเลขไมล์น้อย อาทิ ซูบารุ รุ่น เอ็กซ์วี 2.0i (Subaru XV 2.0i) ในราคาเริ่มต้นเพียง 898,000 บาท และ เดอะ นิว ฟอเรสเตอร์ 2.0i (The New Forester 2.0i) ในราคาเริ่มต้น 1,098,000 บาท "
นายตวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากปัจจัยภายในที่บริษัทฯมีการประเมินแล้ว ปัจจัยสนับสนุนภายนอกที่มีผลต่อการเป้าหมายการขายคือ เศรษฐกิจโลก , การเมืองและนโยบายของภาครัฐฯ และปัจจัยที่มีผลที่สุดก็คือ รถยนต์คันแรกที่จะหมดเงื่อนไขในช่วงปลายปีนี้ โดยบริษัทฯเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่งจะมีการเปลี่ยนรถ จากรถคันแรกมาสู่รถที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม คาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 3-4 จะเริ่มเห็นความหวือหวาของตลาดอีกครั้ง
"ตัวเลขการขายตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงล่าสุดอาจจะดูน้อยกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากเราเพิ่งจะทำส่งมอบรถรุ่นเอ็กซ์วี และ ฟอเรสเตอร์ออกไป แต่หลังจากเราเปิดราคาใหม่ ก็พบว่ายอดจองในเดือนที่ผ่านมาทำได้กว่า 400 คัน หรือเติบโตกว่า 150% และเมื่อรวมกับปัจจัยรถคันแรกที่จะหมดไป ทำให้มั่นใจว่าเป้าหมายที่วางไว้ 6 พันคันภายในสิ้นปีนี้จะทำได้อย่างแน่นอน "
นายตวัน กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายยอดขาย 6 พันคันที่วางไว้ภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้ซูบารุในประเทศไทยมียอดขายที่ขยับเข้าใกล้อันดับ 1 อย่างไต้หวันที่ตั้งเป้าการขายในปีนี้ 8 พันคัน ขณะที่ความคืบหน้าเกี่ยวกับการลงทุนขึ้นไลน์ประกอบรถซูบารุในประเทศไทยนั้น บริษัทฯแม่มีความพร้อม แต่ทั้งนี้ต้องดูทิศทางความชัดเจนของนโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประทศและความมีเสถียรภาพทางการเมืองของไทย
"ตั้งแต่ต้นปีเรามีการปรับโควต้าที่ได้รับมาจากบริษัทฯแม่ โดยได้รับโควต้าสูงสุดในกลุ่มตันจง หรือกว่า 50 % ที่ผลิตมาจากโรงงานที่มาเลเซีย จะส่งมาทำตลาดที่ไทย ซึ่งลูกค้าที่สั่งจองรถก็จะใช้เวลารอรถไม่เกิน 1-2 เดือนอย่างแน่นอน และในอนาคตหากเราสามารถทำยอดขายได้ถึง 6 พันคันอย่างที่ประกาศไว้ ก็คาดว่าจะมีผลทำให้บริษัทแม่อย่างตันจงมีการพิจารณาเรื่องการประกอบในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,165 วันที่ 12 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559