ภาษีไฮบริดหนุน"แมคลาเรน"ดันยอดขาย 40 คัน/ปี McLaren Artura โดนจองเกลี้ยง

06 พ.ค. 2564 | 03:40 น.

McLaren Artura โควต้า 10 ปีนี้ โดนจองเกลี้ยง ด้วยภาษีไฮบริดหนุนทำราคาขายต่ำ ดันยอดรวมพุ่ง

แมคลาเรน ซูเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ ที่ดูแลตลาดในไทยโดย นิชคาร์ เปิดตัว McLaren Artura ขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด ราคา 16.7 ล้านบาท ตํ่าที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจในไทยได้ โควต้า McLaren Artura ปีแรก 10 คัน โดนจองเกลี้ยง เริ่มส่งมอบเดือนตุลาคมนี้

นิชคาร์ กรุ๊ป ปัจจุบันเหลือแบรนด์ในมือเพียง “แมคลาเรน” (McLaren) พร้อมโชว์รูม-ศูนย์บริการอลังการ บนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้า (ก่อนถึงถนนศรีนครินทร์) หลังดำเนินธุรกิจมา 5 ปี เริ่มวางรากฐานแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงมีส่วนร่วมกับชุมชนคนรักแมคลาเรน อย่าง McLaren’s club Thailand

สำหรับรถที่ทำยอดขายเป็นหลักในปีที่แล้ว คือ McLaren 720S และ McLaren 765 LT  รวมถึงรุ่น GT  ล่าสุดประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดตัว ซูเปอร์คาร์ปลั๊ก-อินไฮบริด McLaren Artura ราคา 16.7 ล้านบาท ถือเป็นรถใหม่ที่ราคาตํ่าที่สุดตั้งแต่ทำตลาดมา

แน่นอนว่าราคา McLaren Artura มาจากการเสียภาษีสรรพสามิตเพียง 8% เมื่อเทียบกับซูเปอร์คาร์รุ่นรุ่นอื่นๆ (เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรขึ้นไป) ต้องโดนภาษีสรรพสามิตพิกัด 40%

นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ McLaren Bangkok เปิดเผยว่า ด้วยสเปกนี้ และอัตราการปล่อยไอเสียตํ่า 129 กรัมต่อกม. McLaren Artura จึงทำราคาขายได้ 16.7 ล้านบาท เพราะถ้าไม่ได้ภาษีไฮบริดช่วย เมื่อเทียบกับสมรรถนะซูเปอร์คาร์ขนาดนี้ ราคาต้องเกิน 30 ล้านบาทแน่นอน

McLaren Artura ราคา 16.7 ล้านบาท จะเข้ามาดึงความสนใจจากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ (ที่ผ่านมาได้ยอดขายมาจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้ เฟอร์รารี่ ลัมบอร์กินี เป็นต้น) เริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ ภายใต้โควต้าปีแรก 10 คันซึ่งถูกจองหมดแล้ว และปีหน้าขอไป 23 คัน

ภาษีไฮบริดหนุน"แมคลาเรน"ดันยอดขาย 40 คัน/ปี McLaren Artura โดนจองเกลี้ยง

“แมคลาเรน เป็นซูเปอร์คาร์ ที่ไม่เน้นเพิ่มจำนวนผลิต และไม่มีรถเครื่องยนต์วางหน้า รถสี่ประตู หรือเอสยูวี ดังนั้น เราจะเป็นซูเปอร์คาร์ยี่ห้อสุดท้ายในโลก สำหรับปีนี้ยังทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มุ่งเข้าหาลูกค้าโดยตรงที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม เน้นกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับการสร้าง McLaren’s Club Thailand ให้เป็นชุมชนคนรักซูเปอร์คาร์ ที่ดีที่สุดในประเทศ ”นายวิทวัส กล่าวสรุป

ในส่วนยอดขายปี 2563 แมคลาเรนทำได้ 35 คัน และปีนี้วางเป้าหมายไว้ 40 คัน

สำหรับ McLaren Artura เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่ McLaren Carbon Lightweight Architecture  (MCLA) พร้อมโครงสร้างตัวถังนํ้าหนักเบา วางเครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 7.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง (KWH) เมื่อชาร์จไฟเต็มสามารถวิ่งในโหมด EV โดยเครื่องยนต์ไม่ติดขึ้นมาเลยได้ระยะทาง 30 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ยังมีซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์ ที่รับอานิสงส์จากภาษีสรรพสามิตรถไฮบริด 8% ซึ่งเปิดตัวไปแล้วคือ Koenigsegg Gemera ภายใต้การดูแลตลาดของบริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด  ในเครือ “ชาริช โฮลดิ้ง” 

“เคอนิกเส็กก์” แบรนด์สวีเดน เปิดตัวธุรกิจในไทยปลายปี 2563 โดย เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย นำเข้ารถไฮไลต์มาอวดโฉม 2 รุ่น คือ Koenigsegg Gemera และ Koenigsegg Jesko Absolut

ด้าน Koenigsegg Gemera เป็นไฮเปอร์คาร์ปลั๊ก-อินไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวม 1,700 แรงม้า ราคาขาย 3 ล้านยูโร หรือประมาณ 114 ล้านบาท (คำนวณที่ 38 บาทต่อ 1 ยูโร) ได้โควต้านำเข้ามา 4 คัน

นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด เปิดเผยว่า  Koenigsegg  Gemera ราคาขายเมื่อคำนวณเป็นเงินไทยประมาณ 100 ล้านบาท พร้อมส่งมอบช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567  แต่ถ้าเสียภาษีในอัตราไฮเปอร์คาร์ หรือไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตในกลุ่มรถไฮบริด ราคาขายจะกระโดดไปถึง 200 ล้านบาท

ขณะที่เฟอร์รารี่ มีรถปลั๊ก-อินไฮบริดทำตลาดเช่นกัน โดยคาวาลลิโน มอเตอร์ นำเข้า Ferrari SF90 Stradale มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางปี 2563 ตั้งราคาขายไว้ (ณ ตอนนั้น) 40.9 ล้านบาท

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,676 วันที่ 6 - 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564