Great Wall Motors ลงทุน 2.2 หมื่นล้าน เพิ่มการจ้างงาน 3,000 อัตรา

16 ต.ค. 2563 | 01:45 น.

Great Wall Motors โรงงานผลิต จ.ระยอง วางแผนลงทุนเพิ่มอีก 2.2 หมื่นล้านบาท รับสมัครงานใหม่ สร้างงานทั้งระบบ 3,000 อัตรา

เกรท วอลล์ มอเตอร์ส Great Wall Motors ) ปักธงประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก เตรียม ลงทุนอีก 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มการจ้างงานทั้งระบบ 3,000 อัตรา พร้อมทำตลาดต้นปี 2564 ประเดิมเอสยูวีแบรนด์ Haval ตามด้วยปิกอัพ Poer และเล็งเสริมทัพ EV แบรนด์ ORA

Great Wall Motors ยักษ์ใหญ่จากจีนรายล่าสุดที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในเมืองไทย หลังประกาศซื้อศูนย์การผลิตของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จ.ระยอง ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเตรียมส่งมอบโรงงานให้เรียบร้อยภายในเดือนตุลาคม 2563 จากนั้นจะพร้อมผลิตรถยนต์โมเดลแรกในไทยต้นปี 2564 ด้วยแบรนด์ Haval เจาะกลุ่มคอมแพกต์เอสยูวี

สำหรับ Great Wall Motors คือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ที่เป็นของเอกชน 100% ก่อตั้งโดยนายแจ็ค เว่ย สามารถทำยอดขายในจีนได้กว่า 1 ล้านคัน มา 4 ปีติดต่อกัน โดยแบรนด์ขายดีที่สุดคือ Haval และ Great Wall Pickup ที่เพิ่งรีแบรนด์ใหม่ชื่อ Poer

Great Wall Motors กับแบรนด์รถยนต์ที่ทำตลาด

ส่วนดีลซื้อขายโรงงาน จีเอ็ม จ.ระยอง ไม่เปิดเผยมูลค่า แต่รายงานจาก Great Wall Motors ยืนยันจะต้องลงเงินก้อนใหม่อีก 1,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศูนย์การผลิตแห่งนี้ ให้รองรับกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ที่กำลังจะมุ่งไป โดยวางกำลังผลิตเบื้องต้น 80,000 คันต่อปี แบ่งเป็นสัดส่วนการทำตลาดในไทย 50% และอีก 50% ส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ ประเทศไทยจะเป็นศูนย์การผลิตเต็มรูปแบบลำดับที่ 11 ของ Great Wall Motors ทั่วโลก (โรงงาน Great Wall Motors ในบางประเทศเป็นรูปแบบนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเท่านั้น) ซึ่งปีแรกของการดำเนินงาน ตั้งเป้าใช้ชิ้นส่วนเพื่อการผลิตในประเทศอย่างน้อย 40% และเพิ่มเป็น 80% ในปี 2569

Great Wall Motors วางแผนว่า การลงหลักปักฐานในไทยครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท จากโปรเจ็กต์ต่อไปในอนาคต (ไม่รวมเงินที่ซื้อโรงงานจีเอ็ม) และสร้างการจ้างงานทั้งระบบอีกกว่า 3,000 อัตรา

ล่าสุด Great Wall Motors ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายโรงงานที่จังหวัดระยอง จากจีเอ็มอย่างเป็นทางการ โดยตั้งเป้าเดินสายการผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564

นายจาง เจียหมิง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังการลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายในครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส จะเริ่มปรับปรุงพื้นที่และวางระบบใหม่ให้โรงงานแห่งนี้เป็น “Smart Factory” ตามมาตรฐาน ฐานการผลิตยานยนต์ระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส โดยจะนำความเชี่ยวชาญและความสามารถในการผลิตรถเอสยูวี รถกระบะ รวมไปถึงเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง (Powertrain Technologies) ที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งประเภทไฮบริด (HEV) ปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV) และ รถพลังงานไฟฟ้า100% (EV)

“เรามีแผนนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีระบบการผลิตอัตโนมัติ อย่าง AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ถึงขีดสุด โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ส จะลงทุนในด้านอุปกรณ์การผลิต การวิจัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดเมืองไทย และอาเซียน รวมถึงพัฒนาทักษะ และฝีมือแรงงานในภาคการผลิตอีกด้วย” นายจาง เจียหมิง กล่าวสรุป

ทั้งนี้ Great Wall Motors กำลังอยู่ในช่วงที่เสนอแผนการลงทุนในโปรเจ็กต์ต่างๆ ให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พิจารณา รวมถึงแพกเกจรถยนต์ไฟฟ้า ที่บีโอไอ เตรียมเปิดให้บริษัทต่างๆ เข้ามาขอรับส่งเสริมการลงทุนรอบใหม่เช่นกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง Great Wall Motors เซ็นสัญญาซื้อ-ขาย โรงงาน GM จ.ระยอง เตรียมรับสมัครงาน ในสายการผลิต

Great Wall Motors วางกำลังผลิตรถ 8 หมื่นคัน/ปี เล็งส่งออก ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้

“เกรท วอลล์ มอเตอร์ส” ต้อน ดีลเลอร์ นิสสัน-มาสด้า ช่วยขายรถ Great Wall Motors

“เกรท วอลล์” Great Wall Motors รับสมัครงาน รอเคลียร์รง.GM ระยอง

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,618 วันที่ 15 - 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563