YSS ทุ่ม 50 ล้านผุดแฟลกชิพสโตร์ เจาะตลาดโช้คอัพรถสมรรถนะสูง
YSS ฟุ้งยอดขายโตสวนกระแสตลาดซบ เตรียมทุ่ม 50ล้าน เปิดแฟลกชิพสโตร์แห่งแรก พร้อมเดิมหน้าลุยหวังเป็นเบอร์ 1 โช้คอัพรถยนต์กลุ่มสมรรถนะสูงภายใน 3 ปี
นายภิญโญ พานิชเกษม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส.(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและพัฒนาโช้คอัพรถจักรยานยนต์HIGH PERFORMANCE ภายใต้แบรนด์ “YSS” เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายรวม 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.13% โดยเติบโตทั้งจากการส่งออกและตลาดในประเทศ
“ผลประกอบการที่เติบโตมาจากตลาดส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งถือเซอร์ไพรส์มาก เพราะยุโรปได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยอดขายโช้คอัพของเรากลับขยายตัวสูงถึงกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนตลาดในประเทศไทย ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ยอดขายลดลง 10-30% แต่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ยอดขายกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง "
นายภิญโญ กล่าวว่า เมื่อมีวิกฤตเกิดขึ้น ต้องไม่ท้อ ต้องคิดค้น พัฒนาสินค้า เพื่อสร้างดีมานด์ในตลาด หาช่องทางที่จะนำสินค้าไปตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น และรวดเร็ว เพราะในช่วงที่เกิดขึ้นวิกฤต ตลาดจะเล็กลง คู่แข่งมีกำลังถดถอย
ดังนั้นถ้าบริษัทมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจต่อเนื่อง ก็จะโตเป็นสองเท่า และบริษัทฯได้บอกพนักงานเสมอในช่วงวิกฤตต้องทำงานหนักขึ้น แล้วจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม
จากแนวคิดดังกล่าว ทำให้บริษัทฯเตรียมเดินหน้าลุย พร้อมทั้งวางแผนธุรกิจภายใน 3 ปี โดยบริษัทฯจะขยายตลาดในส่วนผลิตภัณฑ์โช้คอัพรถยนต์ ทั้งรถยนต์นั่งทั่วไป และรถยนต์เฉพาะกลุ่ม เช่น PPV ,ออฟโรด เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมขยายธุรกิจศูนย์บริการ โดยจะเปิดแฟลกชิพสโตร์แห่งแรกในกรุงเทพฯ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 40-50 ล้านบาท และมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มทั้งในกรุงเทพ ต่างจังหวัด รวมทั้งประเทศต่างๆ ในอาเซียน เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรมากขึ้น
"YSS เป็นผลิตภัณฑ์โช้คอัพแบรนด์ไทย ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดโลก ในกลุ่มสินค้าประเภท High Performanceของมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์ โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ YSS มีส่งออกไปจำหน่ายใน 55 ประเทศ ทั้งในภูมิภาคยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา มีตัวแทนจำหน่าย 95 ราย และมีศูนย์บริการ 121 แห่งทั่วโลก มีกำลังการผลิตมากกว่า 1.5 ล้านชิ้นต่อปี "
นายภิญโญ คาดว่าจากแผนรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผลประกอบการของปีนี้ ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือมียอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจากแผนรุกเข้าสู่กลุ่มตลาดรถยนต์ ก็คาดว่ายอดขายโช้คอัพรถยนต์จะเป็นสัดส่วนหลักในอนาคต