โควิดพ่นพิษยานยนต์ไทย คาดฟื้นตัวปี 65

02 ส.ค. 2563 | 02:46 น.

วิจัยกรุงศรีเผยอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 63 หดตัวรุนแรง คาดปี 64 - 65 ฟื้นตัว

วิจัยกรุงศรีวิเคราะห์สถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวรุนแรง ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ปี 2564-2565 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทําให้คาดว่าผู้ผลิตรถยนต์จะประคับประคองผลประกอบการให้เติบโตได้ ขณะที่ตัวแทนจําหน่ายรถยนต์ใหม่ ผลประกอบการทยอยกระเตื้องขึ้นบ้างในปี 2564-2565 

โดยวิจัยกรุงศรีได้เจาะลึกถึงแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบไปด้วย  
1. ผู้ผลิตรถยนต์ คาดผลประกอบการปี 2563 จะหดตัวรุนแรง ก่อนทยอยฟื้นตัวในปี 2564-2565 ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก

โควิดพ่นพิษยานยนต์ไทย คาดฟื้นตัวปี 65

-ผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากห่วงโซ่การผลิตหยุดชะงักชั่วคราวโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงกําลังซื้อซบเซาทั่วโลก จึงคาดว่ายอดจําหน่ายในประเทศและตลาดส่งออกจะหดตัวรุนแรง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นใน ปี 2564-2565 โดยมีปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว การเติบโตของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์หนุนความต้องการรถปิกอัพและการเปิดตัวรถยนต์ โมเดลใหม่โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าช่วยกระตุ้นตลาดต่อเนื่อง ด้านตลาดส่งออกจะขยายตัวโดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์อเนกประสงค์ (PPV และ SUV)และรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง 
 

-ผู้ผลิตประกอบรถบรรทุก รถพ่วง และรถกึ่งพ่วง ได้อานิสงส์จากโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ ผนวกกับความต้องการรถบรรทุกจะปรับดีขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจ โลจิสติกส์ และมีโอกาสขยายตลาดส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องและมีแผนลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 

โควิดพ่นพิษยานยนต์ไทย คาดฟื้นตัวปี 65
-ผู้ผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่เพื่อการโดยสาร (รถบัส)
คาดว่าจะฟื้นตัวตามธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจขนส่งโดยสารเอกชนในปี 2564-2565 รวมทั้งความต้องการรถโดยสารประจําทางของภาครัฐ (ขสมก.) และการทยอยปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารเป็นรถไมโครบัสตามมาตรการรัฐ ขณะที่ตลาดส่งออกมีแนวโน้ม ขยายตัวโดยเฉพาะตลาดอาเซียน


-ตัวแทนจําหน่ายรถยนต์ใหม่ (รถยนต์นั่งและรถปิกอัพ) และผู้นําเข้ารถยนต์อย่างเป็นทางการ คาดว่าผลประกอบการยังไม่ดีนักจากกําลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวแม้จะมีความต้องการซ่อมบํารุงรถยนต์ตามอายุ/ระยะทาง แต่ยังมีความเสี่ยงจากผู้ใช้รถบางส่วนอาจเปลี่ยนไปใช้บริการจากอู่ซ่อม รถยนต์ทั่วไปซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ํากว่า (โดยเฉพาะรถยนต์ที่ซื้อในโครงการรถคันแรกมีจํานวนราว 1.1 ล้านคน และมีอายุ 7-8 ปี) 


นอกจากนี้นโยบายของค่ายรถยนต์ที่กําหนดให้ตัวแทนจําหน่ายต้องลงทุนปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการให้ได้มาตรฐานทําให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 


-ผู้จําหน่ายยานยนต์ชนิดรถบรรทุกและยานยนต์หนักอื่นๆ  ผลประกอบการปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวรุนแรง แต่จะเริ่มฟื้นตัวในปี 2564-2565 จากความคืบหน้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และความต้องการขนส่งสินค้าจากการพัฒนาเส้นทางคมนาคมใหม่ๆ ทั้งในประเทศและเชื่อมโยงกับ ประเทศใกล้เคียง รวมทั้งการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และธุรกิจโลจิสติกส์ช่วยให้มีความต้องการรถบรรทุกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาด 2 ตัน และรถบรรทุก 6 ล้อ ประกอบกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีธุรกิจบริการแบบครบวงจร เช่น การจําหน่ายอะไหล่ การซ่อมบํารุง การจําหน่ายรถมือสอง สินเชื่อ เช่าซื้อ เป็นต้น ช่วยประคับประคองธุรกิจได้ระดับหนึ่ง
 

โควิดพ่นพิษยานยนต์ไทย คาดฟื้นตัวปี 65

-ผู้นําเข้ารถยนต์อิสระ (เกรย์มาร์เก็ต)เผชิญความยากลําบากในการดําเนินธุรกิจ ผลจากการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากผู้จําหน่ายอย่างเป็นทางการ และผู้นําเข้ารถยนต์อิสระ ขณะที่ภาครัฐยังคงใช้มาตรการเข้มงวดในการนําเข้ารถยนต์ใหม่จากผู้นําเข้าอิสระ มีผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการอยู่ใน ระดับสูงไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการได้ ประกอบกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทําให้ผู้ประกอบการเร่งปรับตัวเพื่อ ลดความเสี่ยงจากภาวะขาดทุน อาทิ ลดขนาดธุรกิจ จําหน่ายรถยนต์ราคาไม่แพงเพื่อลดต้นทุน และลดราคาจําหน่ายเพื่อระบายสต๊อก

สําหรับผู้ประกอบการ ที่มีศักยภาพมีแนวโน้มลงทุนศูนย์ซ่อมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และช่วยเพิ่มรายได้จากการบริการหลังการขายและจําหน่ายอะไหล่


- เต็นท์รถมือสอง รายได้จากการจําหน่ายหดตัวรุนแรงในปี 2563 แต่จะกระเตื้องขึ้นบ้างในปี 2564-2565 อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงและอุปทานรถยนต์ที่มีมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2563-2565 จะเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการ ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา การแข่งขันด้านราคาของ ในตลาด และผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติ บริษัทในเครือของค่ายรถ และแพลตฟอร์มตลาดซื้อขายรถยนต์ มือสองออนไลน์) จะกดดันอัตรากําไรของผู้ประกอบการ