ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

29 มี.ค. 2563 | 03:10 น.

เจ้าพ่ออีโคคาร์ “ซูซูกิ” ที่มีรถทำตลาดถึง 3 โมเดล ทั้ง เซเลริโอ, เซียส และสวิฟต์ แต่ยังเพิ่มความหลากหลายด้วยรถอเนกประสงค์อย่าง “เออร์ติก้า” เอ็มพีวี 7 ที่นั่งนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย (รวมถึงปิกอัพ แคร์รี่)

อาจจะเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายของซูซูกิ เพราะเออร์ติก้าโฉมใหม่ที่เปิดตัวต้นปี 2562 ตัวรถถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเจเนอเรชันแรกแบบผิดหูผิดตา ด้วยการใช้แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ขณะที่มิติตัวถังใหญ่ขึ้นทุกสัดส่วน เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ขยับจาก 1.4 ลิตร เป็น 1.5 ลิตร ในราคาขายที่จับต้องได้ง่ายคือ 6.55-6.95 แสนบาท (ไม่รวมส่วนลดอีกหลายหมื่นบาท)

ส่วนความโชคร้ายคือ ต้องมาเจอคู่แข่งที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซียอย่าง “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์” ซึ่งรายนี้ทำยอดขายเดือนละกว่า 1,000 คัน ถือเป็นตัวเลขที่เกินความคาดหมายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

ล่าสุด ซูซูกิเปิดตัว “เออร์ติก้า โมเดลปี 2020” จัดการสิ่งที่เป็นจุดด้อย มองแล้วไม่เป็นจุดเด่นก็เปลี่ยนใหม่ โดยเฉพาะการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เช่น ถอดหน้าจอแสดงผลตรงกลางที่แสนจะโบราณออกไป แล้วแทนด้วยหน้าจอสัมผัสทัชสกรีนจริงๆ ขนาด 10 นิ้ว ควบคุมระบบความบันเทิง-โทรศัพท์ รองรับ Apple Carplay

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

หน้าจอนี้ดูใหญ่เต็มตา และยังสะท้อนภาพจากกล้องมองหลังเพิ่มความปลอดภัยในการถอยจอด การออกแบบลงตัวกับชุดแอร์ที่เปลี่ยนเป็นแบบอัตโนมัติ ดูทันสมัยสู้กับคู่แข่งได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 เพิ่มหมอนรองศีรษะในตำแหน่งผู้โดยสารตรงกลาง

รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมไม่ได้ปรับอะไร มีเพียงล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ กระจกหลังมีไล่ฝ้า และเพิ่มตัวถังสีม่วง-แดง เข้ามาเป็นทางเลือก โดยรุ่นท็อปออพชันเต็ม GX ขยับราคาขึ้น 3 หมื่นบาท เป็น 7.25 แสนบาท ส่วน GL ขึ้น 4,000 บาท เป็น 6.59 แสนบาท

ขณะที่เจ้าตลาด “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์” ไม่ยอมน้อยหน้าเสริมรุ่นย่อยใหม่ ที่ตกแต่งให้ดูสมบุกสมบันคล้ายเอสยูวีมากขึ้น (ไปอีก) และใช้ชื่อ “ครอสส์” ต่อท้าย ทว่าราคาขายก็ขยับขึ้นไปเกือบ 9 แสนบาทเลยทีเดียว

ถ้า“มิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์” ดูลุย (ล้อ 17 นิ้ว และตัวถังยกสูงกว่า) และได้ความใหญ่ของตัวถัง ส่วน “เออร์ติก้า” โมเดลปี 2020 เน้นเรียบง่ายเส้นสายการออกแบบไม่หวือหวา แต่มีความอเนกประสงค์ไม่แพ้กัน

การตกแต่งภายในขยับความหรูขึ้นมาเล็กน้อย แต่รวมๆ ยังออกสไตล์บ้านๆ โดยรวม “เอ็กซ์แพนเดอร์” เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ทว่าทีเด็ดเอ็มพีวีของซูซูกิ อยู่ที่สมรรถนะของเครื่องยนต์รหัส K15B

ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เรี่ยวแรงดีครับ (การทดสอบขับคนเดียว) การตอบสนองปราดเปรียว ว่องไวกว่า “เอ็กซ์แพนเดอร์” เล็กน้อย

จังหวะเร่ง ช่วงต้องการพลัง กดคันเร่งให้เกียร์คิกดาวน์ ยังขับขี่ได้เร็วทันใจ ความเร็วปลายเกิน 100 กม./ชม.ยิ่งเหยียบยิ่งพุ่ง ซึ่งความดีความชอบต้องยกให้ การเซตเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง แบบเกียร์อัตโนมัติทอร์กคอนเวอร์เตอร์ (ถ้าเกียร์สายพาน CVT การตอบสนองก็ต่างไป) และอัตราทดเฟืองท้าย

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

ลองขับ"ซูซูกิ เออร์ติก้า"ECO MPV ปรับใหม่ให้ลงตัว

พร้อมแพลตฟอร์ม HEARTECT แข็งแกร่งแต่นํ้าหนักเบา ที่สำคัญโครงสร้างยังมีการให้ตัวรองรับแรงสะท้านจากพื้นถนนได้ดี เมื่อประกบกับช่วงล่างหน้าแมกเฟอร์สันสตรัต หลังแบบคาน ทอร์ชันบีม ขับทางตรงให้ความมั่นใจ แต่ช่วงทางโค้งรถยังมีอาการโยนเล็กน้อย

ด้านความปลอดภัย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกป้องกัน
ล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว ESP และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HDC จัดเป็นมาตรฐานทั้ง 2 รุ่นย่อย

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามัน จากการขับขี่ในเมืองรถไม่ติดมากและวิ่งออกมอเตอร์เวย์ใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. เห็นตัวเลขประมาณ 14 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...สมรรถนะจี๊ดจ๊าด พร้อมความอเนกประสงค์ครบครันในสไตล์มินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ส่วนการออกแบบและฟังก์ชันรวมๆ อาจจะไม่หวือหวาแต่มาในราคาที่เข้าถึงง่ายนะครับ 

คอลัมน์เทสไดร์ฟ

โดย : กรกิต กสิคุณ

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 3,561 วันที่ 29 มีนาคม - 1 เมษายน พ.ศ. 2563