เอ.วี.เอ็น.ดัน"คาโต้"คืนตลาดเครื่องจักรกลหนัก

27 มี.ค. 2563 | 05:50 น.

ธุรกิจเครื่องจักรกลหนักใประเทศไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท และมีผู้เล่นหลากหลายแบรนด์กระโดดร่วมวงเข้ามาแย่งชิงเค้กก้อนนี้ ล่าสุดแบรนด์น้องใหม่ แต่ชื่อไม่ใหม่อย่างคาโต้ ก็หวนคืนกลับมาลุยตลาดบ้านเราอีกครั้ง ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่อย่าง บริษัท เอ.วี.เอ็น. มอเตอร์ เวอคส์ จำกัด ซึ่งแผนงานและทิศทางของการแจ้งเกิดในครั้งนี้จะมีอะไรบ้างนั้น หัวเรืออย่าง “อภิชาติ ชัยเจริญสุขเกษม” กรรมการผู้จัดการจะมาเป็นผู้บอกเล่า

 
เอ.วี.เอ็น.ดัน"คาโต้"คืนตลาดเครื่องจักรกลหนัก

อภิชาติ ชัยเจริญสุขเกษม

ทำไมเลือก“คาโต้”

บริษัท เอ.วี.เอ็น. มอเตอร์ เวอคส์ จำกัด อยู่ในธุรกิจเครื่องจักรกลหนักมานานกว่า 40 ปี มีประสบการณ์ในการทำหลายแบรนด์ อาทิ ฮุนได และเมื่อหมดสัญญาเราจึงมองหาแบรนด์อื่นที่มีโอกาสทางการตลาด ซึ่งหลังจากศึกษาก็พบว่ายังมีแบรนด์ญี่่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในตลาดโลกแต่ในไทยนั้นห่างหายไปนานกว่า20 ปีนั่นก็คือแบรนด์ คาโต้

ดังนั้นจึงตัดสินใจเจรจากับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเพื่อขอกลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้ง ส่วนการเลือกแบรนด์ญี่ปุ่นเพื่อทำตลาดมีข้อได้เปรียบ เพราะผู้บริโภคคนไทยผูกพันกับสินค้าที่มาจากญี่ปุ่น ดังนั้นการโปรโมตแบรนด์ไม่ต้องเริ่มใหม่เหมือนแบรนด์จากจีน

 

แผนการตลาด

เบื้องต้นจะนำรถเข้ามาจากประเทศจีน เพราะคาโต้มีโรงงานอยู่ที่จีนและญี่ปุ่น แต่เนื่องจากสินค้าหากนำเข้าจากญี่ปุ่นจะติดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่เป็น Tier4 แต่หากนำเข้าจากจีนจะใช้เครื่องยนต์ Tier3 ซึ่งเรายืนยันว่าคุณภาพมาตรฐานนั้นไม่แตกต่างกัน ประกอบกับการนำเข้าจากจีนได้ประโยชน์ด้านภาษี 0% ทำให้ราคาย่อมเยากว่า

ส่วนแผนการตลาดจะมีการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ รวมถึงแคมเปญโปรโมชัน โดยใช้งบประมาณ 8 -10 ล้านบาท

 

รุ่นรถที่ขาย

ในช่วงแรกจะนำรถขุดไฮดรอลิกตีนตะขาบ 3 รุ่น ได้แก่ KATO HD820-R5 REGZM รุ่น 21 ตัน ราคา 3.79 บาท, KATO รุ่นขนาด 13 ตัน ราคา 3.1 ล้านบาท และ รถขุดขนาดเล็ก Mini Excavator 5.5 ตัน ราคา 1.8 ล้านบาท โดยสินค้าจะรับประกันคุณภาพเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 2,000 ชั่วโมง แต่ในช่วงแนะนำได้ขยายเวลารับประกัน 3 ปี หรือ 6,000 ชั่วโมง (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ส่วนตำแหน่งสินค้านั้นจะอยู่กลุ่มเดียวกับแบรนด์ญี่ปุุ่น แต่ราคาขายจะตํ่ากว่าประมาณ 7 - 8% แต่หากเทียบกับแบรนด์เกาหลีจะมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย ขณะที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นจะมีทั้งผู้รับเหมา , งานเหมือง, กลุ่มข้าราชการ

 

เครือข่ายให้บริการ

ตอนนี้เรามีศูนย์บริการและอะไหล่ครบวงจรจำนวน 17 แห่ง และวางแผนจะขยายเป็น 35 แห่งภายใน 3 ปี พร้อมทั้งมีรถโมบาย เซอร์วิส 25 คัน ไว้รองรับรถของลูกค้าหากเกิดปัญหาใน 48 ชั่วโมง

 

เป้าหมายยอดขาย

ตอนนี้เราเริ่มขายไปได้แล้วกว่า 10 คัน ส่วนเป้าหมายที่บริษัทแม่วางไว้คือ 100 คัน แต่เมื่อประเมินจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้คาดว่าจะมีตัวเลขการขาย 70 - 80 คัน

 

ตั้งโรงงานในไทย

เนื่องจากบริษัทคาโต้ฯ มีโรงงานตั้งอยู่ในไทย ที่จังหวัดระยอง แต่ใช้เป็นฐานผลิตรถเครน ซึ่งในอนาคตหากความต้องการรถขุดคาโต้ในไทย และในภูมิภาคสูงขึ้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานในไทย โดยใช้พื้นที่เดียวกันกับโรงงานเครน ส่วนจำนวนเท่าไรถึงจะขึ้นไลน์ผลิตนั้น คาดว่าจะประมาณ 1,000-2,000 คันต่อปี

 

แผนธุรกิจอื่นๆ

ภายใต้ บริษัท เอ.วี.เอ็น. มอเตอร์ เวอคส์ จำกัด ยังมีแบรนด์เครื่องจักรกลหนักอีกหนึ่งแบรนด์คือ เคส CASE ที่จำหน่าย รถตักล้อยาง, รถบดถนน, รถเกลี่ยดิน, รถดันตีนตะขาบ  จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสินค้า ที่จำหน่ายนั้นไม่ได้ทับซ้อนกับแบรนด์คาโต้แต่อย่างใด ปัจจุบันบริษัททำตลาดแบรนด์เคส มาประมาณ 1 ปีแล้ว และปีนี้ตั้งเป้าหมายการขายประมาณ 

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,560 วันที่ 26 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2563