"ซูซูกิ เซียส" ซื้อง่าย นั่งสบาย

อีโคคาร์ซีดานที่มีความยาว 4.49 เมตร ระยะฐานล้อ 2.65 เมตรเน้นความกว้างขวาง ความ สะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยแบบเพียงพอต่อการใช้งาน หรือไม่เลอเลิศแบบถุงลมนิรภัย 7 ใบเป็นมาตรฐานของ “โตโยต้า ยาริส เอทีฟ” หรือกล้องมองภาพรอบคัน เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉิน เตือนการชน แบบ “นิสสัน อัลเมร่า” หรือ “มิตซูบิชิ แอททราจ”

แม้หลายคนมองว่า “เซียส” เป็นมวยรอง ยิ่งทำตลาดมานาน เจอความสดใหม่ของ นิสสัน อัลเมร่า ฮอนด้า ซิตี้ หรือการไมเนอร์เชนจ์ ของ มิตซูบิชิ แอททราจ มาสด้า 2 ที่ล้วนเป็นอีโคคาร์ เฟส 2 ทั้งหมด พร้อมเสียภาษีสรรพสามิต 12% ต่างจากเซียส ที่เป็นอีโคคาร์เฟส 1 เสียอัตรา 14% (ปล่อยไอเสีย 119 กรัม/กม.)

ทว่าเซียส พยายามแข่งขันด้วยความคุ้มค่า พร้อมการดูแลด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน เพื่ออนุมัติให้ลูกค้าออกรถได้ง่าย ยิ่งในระยะหลังๆ พวกซื้อไปวิ่งแกร็บ ขับรับจ้าง หรือธุรกิจรถเช่ายังเป็นลูกค้าฟลีตที่สำคัญของซูซูกิ

ล่าสุด เซียสปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “เบลล่า-ราณี” ให้มาช่วยประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์

ส่วนรุ่นย่อยมีการปรับเล็กน้อยคือ ถอดรุ่นเกียร์ธรรมดาตัวล่างสุดออกไป เหลือเพียงทางเลือกเดียวคือ GL MT ราคา 5.23 แสนบาท นอกจากนั้นเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ GL 5.59 แสนบาท GLX 6.25 แสนบาท และ RS ราคา 6.75 แสนบาท

การเปลี่ยนแปลงถ้าวัดจากรุ่นท็อป RS จะเห็นได้ชัดที่สุดครับ ทั้งชุดโครเมียมที่แต้มแต่งมารอบคัน การออกแบบกระจังหน้าใหม่ โคมไฟกรอบเดิมแต่เปลี่ยนไฟใหญ่เป็นหลอด LED ควบคุมลำแสงด้วยโปรเจ็กเตอร์เลนส์ ไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และเพิ่มกล้องมองหลัง พร้อมเซ็นเซอร์ สะท้อนภาพการถอยจอดรถมายังหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วที่คอนโซลหน้า

เครื่องยนต์บล็อกเดิม K12B เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 91 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT บังเอิญว่าการทดสอบในทริปที่จังหวัดเชียงใหม่นี้นั่งกันไปเต็มลำ 4 คน ทำให้การออกตัว หรือเร่งแซงในหลายๆจังหวะ เชื่องช้าไปนิด (มีช่วงขึ้น-ลงเนินบ่อย)

จริงๆสมรรถนะของเครื่องยนต์และเกียร์หากขับขี่ในเมือง ใช้งานในชีวิตประจำวันผมว่าพอเพียงครับ ช่วงตีนต้นไม่ถึงกับอืดจนน่าเกลียด แต่ต้องยอมรับว่า เซียส ไม่ได้เป็นรถที่ขับสนุกอะไร ยิ่งพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า การตอบสนองออกแนวขาดๆเกินการควบคุมรถในความเร็ว 80 กม./ชม.ขึ้นไป ไม่ได้เนียนแน่นตามความคาดหวังของผู้ขับนัก

เซียส พัฒนาบนแพลตฟอร์ม “เทค” (TECH) ซึ่งเป็นเจเนอเรชัน ก่อนที่จะเป็น “ฮาร์ตเทค” (HEARTECH) ที่ใช้กับ สวิฟท์ และเออร์ติกา ขณะที่รุ่นไมเนอร์เชนจ์ไม่ได้ปรับปรุงช่วงล่างใหม่ ทั้ง สปริง โช้กอัพ ยังใช้เบอร์เดิม รุ่นท็อป ใช้ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ประกอบยางบริดจสโตน อีโคเปีย 195/55R16 การรองรับนุ่มนวลพอสมควร

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันตามมาตรฐานอีโคคาร์เฟสหนึ่ง 20 กม./ลิตร แต่วิ่งจริงใช้งานบนพื้นราบ ขับสบายๆ รักษาความเร็วตามกฎหมายกำหนด ต้องมีตัวเลข 16 กม./ลิตรขึ้นไปครับ

รวบรัดตัดความ...สมรรถนะไม่เหนือกว่าอีโคคาร์ซีดานรุ่นอื่นๆในตลาด แต่ “เซียส” สู้ได้เรื่องประโยชน์ใช้สอย และความกว้างขวางนั่งสบาย โดยเฉพาะการนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง 

คอลัมน์เทสต์ไดร์ฟ

โดย : กรกิต กสิคุณ

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 40 ฉบับที่ 3,555 วันที่ 8 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2563