มอเตอร์ไซค์"ไทรอัมพ์"รับภาษีใหม่ 9% แต่ไม่ปรับราคาลง

ตัวเลขจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ของกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2563 มีจำนวน 145,066 คัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ทำได้ 148,932 คัน ส่วนปีนี้ปัจจัยลบเพียบนำโดยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ส่งผลให้ทุกค่ายรถต้องเลื่อนแผน หรือยกเลิกการจัดงานออกไปก่อน

เช่นเดียวกับบริษัทน้องใหม่ “วรูม” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ บาจาจ (Bajaj) เคทีเอ็ม (KTM) และฮัสกวานา (Husqvarna) เดิมมีแผนเปิดตัวธุรกิจและโชว์รูมมัลติแบรนด์ ซอยลาดพร้าว 122 ในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนเข้างานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2020 จำเป็นต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด

ขณะที่ยอดขายเดือนมกราคม ในกลุ่มพรีเมียม นำโดย ฮาร์ลีย์ -เดวิดสัน ไทรอัมพ์ บีเอ็มดับเบิลยู ดูคาติ กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวม 491 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ทำได้ 467 คัน

เมื่อแบ่งยอดขายของแบรนด์ต่างๆ พบว่า ไทรอัมพ์ ทำได้ 199 คัน (เพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2562 ที่ทำได้ 189 คัน), บีเอ็มดับเบิลยู 134 คัน (ลดลงจากเดิมในปี 2562 ที่ทำได้ 154 คัน), ฮาร์ลีย์- เดวิดสัน 128 คัน (เพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2562 ที่ทำได้ 50 คัน) และ ดูคาติ 30 คัน (ลดลงจากเดิมในปี 2562 ที่ทำได้ 74 คัน )

ยอดจดทะเบียนในกลุ่มพรีเมียมแบรนด์ที่เติบโต เป็นผลมาจากยอดจองตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่หลายค่ายเร่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่ พร้อมทั้งอัดแคมเปญ และสื่อสารตลาดด้วยการเน้นเรื่องราคาขายก่อนที่จะปรับขึ้น เนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตจะบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563

อย่างไรก็ตาม บิ๊กไบค์กลุ่มที่โดนภาษีหนักจาก 8% เป็น 18% คือรถขนาดไม่ถึง 1000 ซีซี แต่ปล่อยไอเสียเกิน 130 กรัม แต่รถที่เกิน 1000 ซีซี และปล่อยไอเสียเกิน 130 กรัมอยู่แล้ว จะเสียจาก 17% เป็น 18% ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์คือเครื่องยนต์เกิน 1000 ซีซี แต่ปล่อยไอเสียตํ่ากว่า 130 กรัม จากที่เคยเสียภาษี 17% จะลดลงมาเหลือ 9% ซึ่งหนึ่งแบรนด์ที่ได้อานิสงส์เต็มๆ คือ “ไทรอัมพ์” กลุ่มเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 4 ปล่อยไอเสียตํ่า

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบล่าสุดรถในกลุ่มนี้หลายรุ่นยังไม่ปรับราคา ทั้ง บอนเนวิลล์ ที120 ปล่อยไอเสีย 103 กรัม/กม.ราคาเริ่มต้น 5.78 แสนบาท ส่วนรุ่นสแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี ปล่อยไอเสีย 113 กรัม/กม.ราคาเริ่มต้น 6.13 แสนบาท และรุ่น ทรักซ์ตัน อาร์ 1200 ปล่อยไอเสีย 106 กรัม/กม. ราคาเริ่มต้น 6.45 แสนบาท

“เรากำลังประชุมเพื่อปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าใหม่ รวมไปถึงข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าและการหาพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงินเพิ่ม จากเดิมที่มี 4 รายก็จะเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนการปรับราคารถนั้น เรายังขายในราคาเดิมที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว” นางสาวจิราพร สำเร็จกิจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวและว่า

ส่วนยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม เป็นผลมาจากออร์เดอร์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้า แต่บางรุ่นตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมส่ง เพราะติดขัดเรื่องเอกสาร และกระบวนการผลิตจากโรงงาน

“เดิมไทรอัมพ์คาดหวังว่ายอดขายในปี 2563 จะเติบโต เพราะเปิดรถรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลาย ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการส่งมอบ ดังนั้นจึงเลื่อนออกไปในเดือนพฤษภาคม ขณะที่กิจกรรมต่างๆ ตอนนี้เริ่มประกาศยกเลิกเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย” นางสาวจิราพร กล่าว

ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เพิ่งเปิดตัวซูเปอร์ไบค์ S1000RR โฉมใหม่ ที่พัฒนาเครื่องยนต์ 4 สูบ 999 ซีซี หลักแอโรไดนามิก และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสุด พร้อมขายราคา 1.020-1.050 ล้านบาท

“ตลาดบิ๊กไบค์ในช่วงที่ผ่านมามีการแข่งขันสูง ในส่วนของเราอาจจะมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ครอบคลุม โดยรถที่ขายดีที่สุดเป็นตระกูล GS ซึ่งเรามีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่ต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างความแข็งแกร่งด้านเครือข่าย โดยปัจจุบันเรามีโชว์รูม 15 แห่ง ส่วนการส่งออกมีไปที่ จีน และมาเลเซีย” นายอูเว่ ควาส กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าว

ปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูมีโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง ประกอบรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์รุ่น F750GS, บีเอ็ม ดับเบิลยู F850GS, บีเอ็มดับเบิลยู F850GS Adventure, บีเอ็มดับเบิลยู R1250GS, บีเอ็มดับเบิลยู R1250GS Adventure, บีเอ็ม ดับเบิลยู S1000R, บีเอ็มดับเบิลยู S1000RR และบีเอ็มดับเบิลยู S1000XR 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 40 ฉบับที่ 3,555 วันที่ 8 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2563