งานนี้เจ้าภาพ “เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส” นำเข้า 992 พวงมาลัยซ้ายจากประเทศเยอรมนี เพื่อใช้ทดสอบระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์-1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดมาครบตามการเปิดตัวของตลาดโลก ตั้งแต่ คาเรร่า ไปจนถึง คาเรร่า 4S ตัวถังคูเป้ และคาบริโอเลต์
เป้าหมายหลักของงานนี้ก็ตรงๆ เต็มๆ ไม่อ้อมค้อมครับ คือปอร์เช่ต้องการแสดงศักยภาพสปอร์ตคาร์อันดับ 1 ของโลก พร้อมนำเสนอแนวคิดการพัฒนา การเปลี่ยนแปลง ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสเต็มๆ ในสนามแบบปิด(ควบคุมความปลอดภัย) และมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็นยอดขายได้ ที่สำคัญราคาของ 911 ยุคนี้เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับเจเนอเรชันที่ผ่านๆมา ซึ่งตัวเริ่มต้นอย่าง “คาเรร่า” แค่ 9.9 ล้านบาท
“ใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น และฉลาดขึ้น” เป็นนิยามใหม่ของ 992 ที่เปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างทั้งแพลตฟอร์มใหม่ MMB กับเลย์เอาต์เครื่องยนต์วางหลัง (6 สูบนอนขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่) เกียร์ใหม่ PDK 8 สปีด ด้านมิติตัวถังยาวขึ้น 20 มม. ด้านหน้ากว้างขึ้น 45 มม. หลังกว้างขึ้น 44 มม. ความสูงเพิ่มขึ้น 4 มม. และใช้อะลูมิเนียมมาเป็นวัสดุขึ้นรูปตัวถังมากขึ้น ช่วยให้นํ้าหนักเบาลง 12 กก.เมื่อเทียบกับ 911 โฉมเก่า
ในอีเวนต์ Porsche 911 Roadshow 2020 ผมเลือกขับรุ่นเดียวเต็มๆ ครับ กับตัวแพงที่สุดของ 992 ที่ขายในไทยตอนนี้คือ คาเรร่า 4S คาบริโอเลต์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งราคาพร้อมออพชันไทยแลนด์สแตนดาร์ด (เช่น สปอร์ตโครโนแพ็กเกจ, ระบบไฟหน้า LED Porsche Dynamic Light System Plus,) อยู่ที่ 14,329,200 บาท แต่ตัวนี้เพิ่มออพชันมูลค่าอีกเกือบๆ 3 ล้านบาท หลักๆเป็นชุดตกแต่งภายนอก และลายล้ออัลลอยสีดำแบล็กไฮกรอส (ขนาด 20 นิ้วด้านหน้าและ 21 นิ้วด้านหลัง) ภายในตกแต่งด้วยหนังสีดำ และคาร์บอน ส่วนวัสดุหุ้มเบาะแบบใหม่มีเส้นใยผ้าผสม
ส่วนช่วงล่างจัดเต็มทั้ง PDCC (Porsche Dynamic Chassis Control) โช้กอัพและกันโคลงควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า และPSM Sport Plus ตัวรถเตี้ยลงอีก 10 มม. แถมมีระบบยกตัวรถด้านหน้า และระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง เพิ่มความคล่องตัวในการขับความเร็วตํ่า และมีเสถียรภาพมากขึ้นในความเร็วสูง
ขุมพลังบ็อกเซอร์ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 450 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ที่ 2,300-5,000 รอบต่อนาที ประกบเกียร์ PDK 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. แค่ 3.6 วินาที ส่งให้ตัวรถพุ่งแหวกอากาศอย่างรวดเร็ว สมบูรณ์แบบในแง่ของการบังคับควบคุม จังหวะเข้า-ออกโค้งเนียนแน่นเฉียบคม ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมระบบสมองกลไฟฟ้าต่างๆ ที่คิดและตัดสินใจแทนผู้ขับในเสี้ยววินาที
การทดสอบอีเวนต์นี้ ปอร์เช่แบ่งเป็นหลายสถานีเพื่อสะท้อนสมรรถนะของ 911 โฉมใหม่ ทั้ง “Handling” ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสถึงอาการของรถ เมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางหรือการเลี้ยวอย่างรวดเร็ว และสถานี “Braking & Slalom” สัมผัสระบบเบรกที่มีความปลอดภัยสูงสุด อันประกอบด้วย ระบบรักษาเสถียรภาพและระบบป้องกันการลื่นไถล พร้อมกันนี้จะได้เรียนรู้วิธีการควบคุมรถยนต์โดยใช้พวงมาลัยหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนอีกด้วย
จนถึงสถานี Moose Test ที่แสดงประสิทธิภาพของระบบ Porsche Stability Management (PSM) ว่าทำงานช่วยเหลือการขับขี่อย่างไร เมื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วต้องหักหลบสิ่งกีดขวางกะทันหัน แน่นอนว่าการเปิดและปิดระบบ จะเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
...จบกิจกรรม Porsche 911 Roadshow 2020 ใครได้ขับ คงจะมีแต่ความประทับใจละครับ แต่เรื่องที่ควรปวดหัวคือ บ้านของคุณยังมีที่ว่างให้จอดรถหรือเปล่า
หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,554 วันที่ 5 - 7 มีนาคม พ.ศ. 2563