นายอูเว่ ควาส กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด – 19) ไม่ได้ส่งกระทบกับการผลิตรถยนต์ที่โรงงาน จ.ระยอง โดยบริษัทฯยังเดินหน้าผลิตตามแผนที่วางไว้ แต่ตามปกติในเดือนมกราคมยอดผลิตจะมีไม่มากนัก และเมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคมจะผลิตในจำนวนที่เพิ่มขึ้น
ในปีที่ผ่านมาโรงงานผลิตรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเพื่อป้อนตลาดในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 42% และส่งออก 58% ขณะที่ยอดผลิตบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ผลิตเพื่อป้อนในประเทศ 30% และส่งออก 70%
“จากการระบาดของโควิด - 19 ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ถือว่าไม่กระทบกับการส่งออกรถของเราไปยังประเทศจีน ทุกอย่างเรายังคงผลิตตามแผนที่ได้วางไว้ ปัจจุบันเราผลิตและส่งออก บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 ไปยังจีน และมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่ส่งไปยังประเทศจีนและมาเลเซีย”
นายอูเว่ ควาส กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวโรงงานผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศไทย และยังฉลองการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รวมทั้งหมด 155,000 คัน ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกกว่า 52,000 คันไปยัง 5 ประเทศในภูมิภาคนี้ ล่าสุดบริษัทเริ่มประกอบ ซีรีส์ 3 อีก 2 รุ่นย่อย (ขุมพลังดีเซล และปลั๊ก-อินไฮบริด) ส่งผลให้โรงงานแห่งนี้มีความสามารถในการประกอบรถทั้งหมด 15 รุ่น (รวมมอเตอร์ไซค์) สำหรับ 330e M Sport ปลั๊ก-อินไฮบริด ราคา 2,799,000 บาท และ 320d M Sport 2,549,000 บาท
ส่วนยอดขายปี 2562 บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ทำได้รวม 12,954 คัน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับปี 2561 แบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 11,750 คัน ส่วน มินิ 1,204 คัน โต 15% นับเป็นยอดการเติบโตที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดมินิทั่วโลก