จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 (ASE 2020) งานนิทรรศการ การแสดงเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน ด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ ไบเทค บางนา ซึ่ง ไฮไลท์ภายในงานจะรวบรวม 4 งานนิทรรศการเฉพาะทางที่เกี่ยวกับพลังงานไว้ด้วยกัน คืองาน RENEWABLE ENERGY ASIA งาน ENERGY EFFICIENCY EXPO งาน ENTECH POLLUTEC และ งาน ELECTRIC VEHICLE ASIA
ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (Electric Vehicle Association of Thailand (EVAT)) เปิดเผยว่า การจัดงาน EV Asia และ iEVTech 2020 ในปีนี้สมาคมมีความพร้อมที่จะนำเสนอความก้าวหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรที่สุดมาจัดแสดงภายในงาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ภาคประกอบไปด้วย
1.จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ International Electric Vehicle Technology Conference and Exhibition [iEVTech2020] ครั้งที่ 5 ขึ้น ภายใต้หัวข้อ Scaling-up Electric Mobility & Beyond , CEO eMobility Forum โดยมีตัวแทนภาครัฐ และ ผู้บริหารระดับสูงจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ และ ปีนี้ได้รับเกียรติจาก ศาตราจารย์ อากิระ โยชิโนะ นักเคมีชาวญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2562 ผู้คิดค้นแบตเตอรีลิเทียมทีปลอดภัยและผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้คนแรกของโลกมาร่วมงานสัมมนา
2.เปิดสนามทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ไม่แบ่งแยกค่าย โดยกิจกรรมนี้เป็นที่เดียวที่รวบรวมรถยนต์ไฟฟ้าที่มากที่สุดในประเทศไทยมาให้ทดสอบกัน อาทิ บีเอ็มดับเบิลยู รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และยังมีรถบัสไฟฟ้าเข้าร่วมงานด้วย
3.นิทรรศการของสมาคมยายนต์ไฟฟ้าจัดแสดง การจัดจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับกลุ่ม อาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา วิศวกร ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้กำหนดนโยบาย ทั้งในและต่างประเทศสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงผู้สนใจทั่วไป ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสความก้าวหน้าที่ครบองค์ความรู้ด้านรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบมิติที่สุด
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า ในฐานะผู้จัดงาน ASE 2020 -ASEAN Sustainable Energy Week 2020 มีความพร้อมและได้เตรียมจัดแสดงเทคโนโลยีพลังงานชั้นนำของโลก ที่ปัจจุบันมีผู้ตอบรับกว่า 500 บริษัท จาก 37 ประเทศ พร้อมพาวิลเลียนนานาชาติ จากจีน เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และ ไต้หวัน
"ปีนี้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีจัดการสิ่งแวดล้อมของโลกจากประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมจัดงานบนพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร ถือเป็นการตอบรับกระแสการดูแลสิ่งแวดล้อมและการดูแลปัญหาเรื่องมลภาวะที่เกิดขึ้น"