เกรทวอลล์ ส่งแบรนด์ “ฮาวาล” เจาะกลุ่มเอสยูวี

23 ก.พ. 2563 | 04:20 น.

กำแพงเมืองจีน “เกรท วอลล์ มอเตอร์ส” ปักธงตลาดรถยนต์ไทยหลังใช้ทางลัดเซ้งโรงงานจีเอ็ม จ.ระยอง พร้อมส่งแบรนด์ “ฮาวาล” เจาะกลุ่มเอสยูวี ผลิตเพื่อส่งออกรถพวงมาลัยขวารองรับตลาดอาเซียน-โอเชียเนีย

 

ถือเป็นข่าวใหญ่ในวงการยานยนต์ไทยและยานยนต์โลก เมื่อค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ตัดสินใจขายศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ที่จังหวัดระยอง ให้กับเกรทวอลล์ มอเตอร์ส พร้อมกันนี้จีเอ็มได้ประกาศยกเลิกการจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์เชฟโรเลตในประเทศไทย โดยกระบวนการซื้อขายและส่งมอบศูนย์การผลิตทั้งหมดนี้จะเสร็จสิ้นภายในปลายปี 2563 และคาดว่าเกรท วอลล์ มอเตอร์ส จะเริ่มทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2564

สำหรับเกรท วอลล์ มอเตอร์ส อาจจะไม่ใช่ชื่อใหม่ในแวดวงยานยนต์โลก เพราะถือเป็นผู้ผลิตรถเอสยูวีและปิกอัพรายใหญ่ที่สุดของจีน ในส่วนของประเทศไทยนั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ก็เคยเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ในปี 2556 โดยนำรถอเนกประสงค์แบรนด์ ฮาวาล มาร่วมจัดแสดง 5 รุ่น ได้แก่ H6, H8, M4, Haval E และรุ่นตัวแข่งแรลลี่ Dakar พร้อมประกาศแผนงานว่าจะเข้ามาลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านในไทย เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อเนกประสงค์พวงมาลัยขวาป้อนตลาดอาเซียน

อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็เงียบหายไป จนกระทั่งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชื่อของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส กระหึ่มขึ้นอีกครั้งด้วยการซื้อโรงงานจีเอ็มในประเทศไทย

“ตลาดรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่กำลังพัฒนาและมีศักยภาพสูงมาก ดังนั้นการเข้าสู่ตลาดประเทศไทยจะเป็นก้าวแรกของเกรท วอลล์
มอเตอร์ส ในการเข้าสู่ตลาดอาเซียนและเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ระดับโลกของเรา “นาย หลิว เซียงชาง” รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส กล่าว แนวรุกในครั้งนี้ของเกรท วอลล์ ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหากย้อนกลับไปดูในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าพวกเขาเดินหน้าสยายปีกเพื่อนำพาแบรนด์ไปสู่ตลาดรถยนต์โลก โดยเมื่อต้นปีก็เพิ่งซื้อโรงงานทาเลกอนของจีเอ็มที่ประเทศอินเดีย และเปิดตัวแบรนด์ Great Wall EV และแบรนด์ Haval ในงานมหกรรมยานยนต์ ณ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย

เกรทวอลล์ ส่งแบรนด์ “ฮาวาล” เจาะกลุ่มเอสยูวี

ก่อนหน้านี้ในปี 2562 ได้ปักธงตลาดรัสเซีย โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เมืองตูลา และในเดือนมิถุนายน 2562 เปิดตัวรถฮาวาลรุ่น F7 ซึ่งรถรุ่นนี้สามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นรถแบรนด์จีนที่ขายดีที่สุดในรัสเซีย

ขณะที่การซื้อโรงงานที่จังหวัดระยองในครั้งนี้ แน่นอนว่าจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศออสเตรเลียด้วย ส่วนจะทำตลาดภายใต้แบรนด์ไหน หรือรุ่นไหนนั้น ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็น ฮาวาล Haval รถอเนกประสงค์ และรถปิกอัพ แบรนด์ เกรท วอลล์ Great Wall

ส่วนอีก 2 แบรนด์ที่อยู่ในมืออย่าง WEY (เวย์) รถอเนก ประสงค์ไฟฟ้าพรีเมียม และ Ora (โอรา) รถยนต์ซิตี้คาร์ไฟฟ้า ก็ถือว่าน่าลุ้น เพราะหากดูจากนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายในประเทศ โดยมีเป้าหมายในปี 2579 จะมียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย 1.2 ล้านคัน และเมื่อมาดูเจ้ากระทรวงอย่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส จะผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และรถปิกอัพ รวมไปถึงรถยนต์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 1 แสนคันต่อปี โดยแบ่งสัดส่วนการทำตลาดในไทย 50% และอีก 50% จะเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก

“การลงทุนของเกรท วอลล์ จะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อภาคการผลิต โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยและซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศรวมไปถึงการส่งออก และการจ้างแรงงานในภาคอุตสาหกรรม” นายสุริยะ กล่าวสรุป 

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,551 วันที่ 23 - 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563