Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

22 ก.พ. 2563 | 04:15 น.

รถยนต์ระดับ Entry level ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมปูพรมถล่มตลาดยกแผง โดยปีนี้จะได้เห็นการเปิดตัวของ เอ-คลาส รุ่นประกอบในประเทศ เอสยูวีตัวใหม่ จีแอลบี และจีแอลเอ โฉมใหม่

กลุ่ม New Generation Compact Car (NGCC) เดินทางเข้าสู่เจเนอเรชันที่ 2  ถือเป็นรถที่มีความสำคัญในการขยายฐานลูกค้า หรือกลุ่มที่ต้องการเป็นเจ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในราคาเข้าถึงง่าย พร้อมตัวถังขนาดกะทัดรัด ขับเคลื่อนล้อหน้า ล่าสุดยังยกเครื่องยนต์ใหม่รหัส M282 เบนซิน 4 สูบ 1.3 ลิตร เทอร์โบ มาใช้แทนบล็อก 1.6 ลิตร เทอร์โบ ในการทำตลาดกับรุ่นเริ่มต้น

เมืองไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเดิมด้วย เอ-คลาส ตัวถังซีดาน โดยนำเข้ามาเปิดตัวเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และกลางปีนี้ถึงจะเริ่มขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ ตรงนี้ชัดเจนครับว่า ตัวถังแฮตช์แบ็กรุ่นเครื่องยนต์ปกติ อาจจะไม่ได้ทำตลาดในไทย (ในตลาดโลกเปิดตัวก่อนด้วยซํ้า) แต่ตัวแรงเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังมีโอกาส

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

ประเด็นนี้ คล้ายๆ กับบีเอ็มดับเบิลยู กับ “ซีรีส์ 2 แกรนด์ คูเป้” ที่เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ แต่ไม่ขายรถที่พื้นฐานการพัฒนาเดียวกันอย่าง ซีรีส์ 1 ตัวถังแฮตช์แบ็ก

....สรุปคือตลาดนี้ ตัวถังซีดานขายง่ายกว่า

เอ-คลาส ตัวถังซีดาน A 200 AMG Dynamic รุ่นนำเข้า ราคา 2.49 ล้านบาท ดังนั้นหากมีรุ่นประกอบในประเทศ ตัวเริ่มต้นราคาน่าจะอยู่แถวๆ 2.1-2.2 ล้านบาท

หากกล่าวว่าเป็นครั้งแรกกับการทำตลาด เอ-คลาส ซีดาน คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเจเนอเรชันที่ผ่านมาขายตัวถังแฮตช์แบ็กก็จริง แต่มีทางเลือกอย่าง ซีแอลเอ ซีดาน 4 ประตู สไตล์คูเป้ ด้วย

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

พัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ ครับสำหรับ เอ-คลาส มีความชัดเจนในแนวทาง การวางตำแหน่งในการทำตลาด พร้อมสมรรถนะดีขึ้นแบบขยับเข้าไปใกล้เคียงกับการเป็นรถตราดาว เพราะถ้าจำกันได้เจเนอเรชันที่ 2 นั้น สมรรถนะการขับขี่ไม่ได้เฉียดกับการเป็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์เลย แถมรูปทรงแฮตช์แบ็กไร้เอกลักษณ์ จนถูกล้อว่าเป็น “ฮอนด้า แจ๊ซ” ด้วยซํ้า

แน่นอนว่าสมรรถนะรวมๆ อาจจะไม่เนียนเท่ารุ่นพี่ๆ ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ในเจเนอเรชันที่ 3 ก็ปรับปรุงดีขึ้น และรุ่นใหม่เจเนอเรชันที่ 4 ที่ผมลองขับล่าสุดถือว่าสมศักดิ์ศรีในการเป็นรถตราดาว

เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1332 ซีซี เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,620 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.1 วินาที เรี่ยวแรงดูบู๊ดุดันมากครับ จังหวะการเปลี่ยนเกียร์มีอาการกระตุกกระชากเล็กๆ (เหมือนตั้งใจให้คนขับรู้สึก) พร้อมกับการแต่งเสียงท่อ เสียงเครื่องยนต์ ปล่อยผ่านลำโพงภายในห้องโดยสารให้มีอารมณ์หวีดหวิวเร้าใจ ซึ่งการลองขับโหมดคอมฟอร์ดกับสปอร์ต เสียงจะต่างกันอย่างชัดเจน

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

 

แม้เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะบอกว่าเซตช่วงล่างแบบ Lowered comfort suspension แต่ขับจริงๆ ไม่ได้รองรับนุ่มนวลนัก ยิ่งประกบยางรันเฟลต Hankook Ventus S1 evo2 ขนาด 225/45 R18 ออกแนวสะท้านได้ใจ

การควบคุมเฉียบคม แต่ก็จะหุนหันพลันแล่นตามสไตล์รถขับหน้า (ทั้งนํ้าหนัก,พละกำลัง,การควบคุม อยู่ด้านหน้าทั้งหมด) ช่วงล่วงหนึบแน่นแบบสปอร์ต ดูจะเอาใจผู้ขับวัยรุ่นเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับการตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ทันสมัย กระชากวัยลงมาได้เยอะ

ภายในห้องโดยสารมีระบบไฟส่องสว่างเลือกได้ 64 เฉดสี (มากกว่ารุ่นก่อนหน้า 5 เท่า) โดดเด่นด้วยจอขนาด 10.25 นิ้วต่อกัน 2 หน้าจอ แบ่งเป็นการแสดงผลหน้าคนขับและจออินโฟเทนเมนต์ระบบสัมผัส (Touchscreen) ตรงกลาง

Benz A-Class น้องหนูพันธุ์ดิบ

พวงมาลัยสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa มีแพดเดิลชิฟต์ขนาดเหมาะมืออยู่ด้านหลัง ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre ตัดด้วยด้ายตะเข็บสีแดง อย่างไรก็ตาม เบาะนั่งข้างคนขับยังต้องปรับแบบแมนวลใช้มือโยก (ฝั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ) นอกจากนี้ ยังมาพร้อม MBUX ระบบมัลติมีเดียรุ่นใหม่ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงประมวลผลด้วย AI ที่รับรู้และเข้าใจเกือบทุกคำที่ปรากฏอยู่ในระบบอินโฟเทนเมนต์ สามารถเปิดระบบด้วยคำว่า “Hey, Mercedes”

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันจากสภาพการขับขี่ในเมือง ตัวเลขที่เห็นบ่อยบนหน้าจอคือ 8 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือ 12.5 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...เก๋งเล็กสมรรถนะจี๊ดจ๊าดเกินตัว ดิบได้ใจในบุคลิกที่ต่างไปจากเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นอื่นๆ A 200 AMG
Dynamic รุ่นนี้นำเข้ามาจากโรงงานผลิตที่เม็กซิโก ถ้าใครอยากได้โมเดลเมดอินไทยแลนด์พร้อมราคาลดลงเหลือ 2 ล้านต้นๆ คงต้องรอถึงช่วงกลางปีนี้  

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,550 วันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2563