เชฟโรเลตเทกระจาด"แคปติวา"4.99 แสน-มือ2ร่วง30%

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าบรรลุข้อตกลงในการขายศูนย์การผลิตจีเอ็มจังหวัดระยองให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส จากประเทศจีน พร้อมยุติการจัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในไทยภายในปลายปีนี้ สอดคล้องกับนโยบายระดับโลกของจีเอ็ม ที่จะไม่ทำตลาดรถพวงมาลัยขวาอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า บริษัทกำลังจะซื้อโรงงานที่เหลืออยู่ของจีเอ็มในอินเดีย นั่นหมายถึงการถอนยวงออกจากอินเดียทั้งหมดของจีเอ็ม รวมถึงถอนการผลิตและการขายออกจากประเทศที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้คุ้มค่ากับการลงทุน อย่าง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ พร้อมเตรียมยุติการทำตลาดและการออกแบบรถยนต์แบรนด์ โฮลเด้น ภายในปี 2564 เช่นกัน

ขาดทุน2ปี1.15หมื่นล.

ส่วนประเทศไทย สถานการณ์มีแต่ทรงกับซบมาต่อเนื่อง อย่างยอดขายปี 2562 ทำได้ 15,161 คัน ลดลง 25.4% เมื่อเทียบกับปี 2561 ส่วนงบการเงินที่ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ตั้งแต่ปี 2559 บริษัทมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนติดต่อกัน 2 ปีซ้อน คือในปี 2560 และปี 2561 ขาดทุนรวม 11,562 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จีเอ็มยังดำเนินงานที่ศูนย์การผลิตแห่งนี้ถึงกลางปี 2563 และแม้จะยุติการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตสิ้นปีนี้ แต่บริษัทจะตั้งทีมงานพิเศษขึ้นมาเพื่อร่วมมือกับดีลเลอร์เพื่อดูแลการบริการหลังการขายให้ลูกค้าต่อไป ขณะที่รถยนต์ในสต๊อก(จากโรงงาน, ดีลเลอร์) มีกว่า 4,000 คัน จะมีโปรโมชันสนับสนุนการขายพิเศษตามออกมาเร็วๆ นี้

“เราพร้อมดูแลพนักงาน ลูกค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้จัดหาวัตถุดิบหรือบริการให้ลุล่วงเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย โดยให้ความช่วยเหลือและมอบเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบในจำนวนที่มากกว่ากฎหมายแรงงานไทยกำหนด ขณะที่ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตจะได้รับการเสนอโปรแกรมการช่วยเหลือพิเศษในการปรับเปลี่ยนธุรกิจอย่างเหมาะสม” นายเฮกตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

ทั้งนี้จีเอ็มจะเตรียมแพ็กเกจให้ดีลเลอร์เลือกอย่างน้อย 3 ทางคือ 1.เปลี่ยนธุรกิจให้เป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลต 2.รอการปรับเปลี่ยนไปขายรถยนต์แบรนด์ในเครือเกรท วอลล์ 3.แยกทางกันแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งทั้ง 3 แนวทางจะได้รับการสนับสนุนและเงินชดเชยต่างกันไป

ดีลเลอร์ซบแบรนด์อื่น

นายธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท พระนคร เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ดีลเลอร์รายใหญ่ของเชฟโรเลตเปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปลี่ยนโชว์รูมเชฟโรเลต 7 แห่ง ไปทำธุรกิจขายรถยนต์แบรนด์อื่นแทน ตอนนี้พิจารณาไว้ 2-3 แบรนด์ ซึ่งบางแบรนด์อนุญาตให้ดูแลบริการหลังการขายให้ยี่ห้ออื่นๆ (เชฟโรเลต)ได้ หากในศูนย์บริการวางตำแหน่งหรือแยกโซนซ่อมไว้ชัดเจน

แหล่งข่าวผู้จำหน่ายอีกรายหนึ่งของเชฟโรเลต เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ดีลเลอร์หลายรายกำลังรวมตัวกันเพื่อพูดคุยและเจรจากับบริษัทแม่ ว่าจะทำอย่างไรกับสต๊อกรถที่มีอยู่ในตอนนี้ รวมไปถึงการดูแลหลังการขายจะเป็นในลักษณะไหนขณะเดียวกันสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อเช่าซื้อ ก็เริ่มไม่มั่นใจ โดยไม่อนุมัติสินเชื่อ ทำให้รถที่มีอยู่ในสต๊อกของดีลเลอร์ยิ่งขายยากออกไปอีก

“กรณีที่เกิดขึ้นนี้ดีลเลอร์ไม่รับทราบมาก่อน และเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพิ่งจะจัดงานประชุมใหญ่ มีการเซ็นสัญญาประจำปี และดีลเลอร์บางรายกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโชว์รูม พอเหตุการณ์ตรงนี้เกิดขึ้นก็คงต้องคุยกับบริษัทแม่ว่าจะรับผิดชอบกับคู่ค้ารวมไปถึงลูกค้าผู้ซื้อรถอย่างไร” แหล่งข่าว กล่าว

ไฟแนนซ์หยุดให้สินเชื่อ

นายธีรชาติ จิรจรัสพร ประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยกล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จำนวนรถยนต์เชฟโรเลตที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดมีประมาณ 2-3% จากจำนวนรถยนต์เกือบ 16 ล้านคัน ส่วนรถใหม่มีส่วนแบ่งการตลาด 1.5% ของยอดขายรถปี 2562 (1.007 ล้านคัน) ในแง่ของการขายรถมือสองน่าจะมีผลกระทบบ้าง เนื่องจากสถาบันการเงินผู้ให้บริการเช่าซื้อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ ได้หยุดการให้บริการสินเชื่อรถยนต์เชฟโรเลตชั่วคราว และจะพิจารณานโยบายด้านการให้บริการสินเชื่อกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เมื่อมีความชัดเจนด้านการขายและการตลาดจากจีเอ็มต่อไป ทั้งนี้ ลูกค้าเชฟโรเลต เดิมที่ใช้บริการสินเชื่อของบริษัท ยังคงได้รับการสนับสนุนบริการเช่นเดิม

มือ2ราคาร่วง 30%

ด้านตลาดรถมือสอง โดยนายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า ปกติราคาเชฟโรเลตตํ่าอยู่แล้วเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ โดยผู้ประกอบการที่มีสต๊อกรถของแบรนด์นี้ต้องเร่งขายออกไป แม้ว่าจะขาดทุนก็ตาม เพราะคาดว่าราคาหลังจากนี้จะลดลงอีก

“เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้จะมีรถทยอยเข้าสู่ตลาดอีก ดังนั้นเต็นท์ไหนที่มีรถอยู่ก็ต้องรีบขาย ยกตัวอย่าง เทรลเบลเซอร์มือหนึ่งราคาล้านนิดๆ เมื่อตกมาที่ตลาดมือสอง จะราคาประมาณ 4 แสนบาท แต่ตอนนี้จะลงมาอยู่ที่ 3 แสนบาท ส่วนครูซ ราคา 8- 9 แสนบาท ก็จะอยู่ที่ 2 แสนบาท หรือ โซนิก ราคา 6 แสนบาท ตอนนี้อาจจะเหลือแค่ 1.5 แสนบาท โดยราคาลดลงมาจากปกติอีก 30%” นายภิญโญ กล่าว

ในส่วน เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ที่ใช้ทางลัดในการทำธุรกิจในไทยด้วยการซื้อศูนย์ผลิตจีเอ็ม จ.ระยอง มีรายงานว่าจะขึ้นไลน์ประกอบเอสยูวีแบบ SKD (Semi Knocked Down) พร้อมทำตลาดปี 2564

หน้า 1  ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,550 วันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2563