รถเช่าปรับทัพสู้โคโรนา

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19)ส่งผลให้นักท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลง และบางส่วนมีความกังวลใจในการเดินทางมายังประเทศไทย ดังนั้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในปัจจุบันจึงมีแผนรับมือ โดยเฉพาะธุรกิจรถเช่า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายราย อาทิ บัดเจ็ท ได้มีการออกมาตรการสร้างความมั่นใจแก่ผู้เช่ารถ ด้วยการทำความสะอาด เพื่อให้รปลอดเชื้อ เช่นเดียวกับค่ายไทยเร้นท์อะคาร์ ที่ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบริเวณผิวสัมผัสรถก่อนให้บริการ และฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคภายในห้องโดยสาร

“เราให้เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากอนามัย และมีจุดบริการเจลทำความสะอาด แจกหน้ากากอนามัยในทุกเคาน์เตอร์ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าผู้มาเช่ารถสบายใจและมั่นใจ” นายวิกรานต์ อมาตยกุล กรรมการบริหารสายงานการตลาดบริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าว

ส่วนแบรนด์ยุโรปอย่าง“ซิกท์” นายภูมน สมดี ผู้จัดการทั่วไป ซิกท์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้ปรับแผนงานเพื่อรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการเน้นลูกค้าที่มาจากยุโรปและสหรัฐอเมริการวมไปถึงลูกค้า ในประเทศ ขณะเดียวกันมีแผนเพิ่มรถยนต์ที่มีความหลากหลาย พรีเมียมมากขึ้น ซึ่งตามแผนงานในปี 2563 จะเพิ่มรถ 120 - 130 คัน

ขณะที่แผนงานขยายเครือข่าย ปัจจุบันซิกท์มีจำนวน 13 สาขา และจะเพิ่มอีก 2 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะเปิดเพิ่มนั้นจะเป็นเมืองรอง อาทิ น่าน , เชียงราย ที่มีเส้นทางสามารถทะลุไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวได้

“ผลกระทบจากไวรัสโคโรนามีอยู่แล้ว แต่ไม่มากเท่าไร เพราะลูกค้าที่เป็นคนจีนของซิกท์ มีประมาณ 10 -15% นอกนั้นจะเป็นลูกค้าจากยุโรปและอเมริกา โดยในช่วงที่ผ่านมามีสัดส่วนการยกเลิกน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตามเรามีการปรับแผนงาน อาทิ เพิ่มจำนวนรถ, เน้นความหลากหลายของรุ่นรถ โดยตั้งแต่ปลายปี2562 เราเพิ่มรถอเนกประสงค์
แบรนด์เปอโยต์เข้ามาหลายคัน และต้นปี 2563 ก็เพิ่มบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 1 เพื่อรองรับกับลูกค้าที่เป็นครอบครัว ที่ต้องการรถยนต์พรีเมียม ซึ่งทำให้เราถือเป็นแบรนด์รถเช่าที่มีรถให้เลือกตั้งแต่รถเล็กอีโคคาร์ ไปจนถึงพรีเมียมคาร์”

ด้านดร.นที วรรธนะโกวินท์ นายกสมาคมรถเช่าไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ไวรัสโคโรนาได้ส่งกระทบกับธุรกิจรถเช่าระยะสั้นมากกว่าระยะยาว เพราะนักท่องเที่ยวรวมไปถึงผู้บริหารบางส่วนยกเลิกการเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่านักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 15 - 20% อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าหากจีนสามารถแก้ไขและรักษาโรคนี้ได้รวดเร็ว ทุกอย่างก็จะฟื้นตัวเร็วตาม

“ทางสมาคมได้มีการประชุมและหารือกับผู้ประกอบการในธุรกิจรถเช่าเพื่อหาแนวทางการแก้ไขและช่วยเหลือ เบื้องต้นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือเร่งผลักดัน พ.ร.บ.รถเช่า ซึ่งสมาคมยืนยันว่าหากประกาศใช้เป็นกฎหมายควบคุมก็จะแก้ไขปัญหาทุกเรื่องในธุรกิจรถเช่าทั้งหมดได้”

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ 2563