MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

19 ก.พ. 2563 | 01:30 น.

ในขณะที่เอสยูวีรุ่น “จีเอส” (GS) เตรียมโดนปลดประจำการ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ยังมีทางเลือกอื่นๆ ทั้งรุ่นที่ราคาเข้าถึงง่าย(กว่า)อย่าง “แซดเอส” (ZS) และโมเดลใหม่ที่สมบูรณ์แบบกว่าในราคาใกล้เคียงกันอย่าง “เอชเอส” (HS) รวมถึงรถพลังงานไฟฟ้า “แซดเอส อีวี” (ZS EV) ค่าตัว 1.19 ล้านบาท

 

มากไปกว่านั้น เอ็มจียังอยากเสริมทัพเอสยูวีที่มีความหรูหรา วางตำแหน่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งแผนงานนี้กำลังรอสรุปกับบริษัทแม่ที่เมืองจีนอีกครั้ง (ไม่รวมรถขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริดที่มีแผนอยู่แล้ว)

เมื่อเก๋งเล็กสู้อีโคคาร์ญี่ปุ่นไม่ได้ (ในแง่การดำเนินธุรกิจ) และตลาดรถยนต์มุ่งสู่เอสยูวี เอ็มจีเขาก็เดินทางนี้ละครับ

สำหรับ “เอ็มจี เอชเอส” เปิดตัวในเมืองไทยเดือนกันยายนปีที่แล้ว แบ่งการขาย 3 รุ่นย่อย คือ C ราคา 9.19 แสนบาท D ราคา 1.019 ล้านบาท และรุ่น X 1.119 ล้านบาท

MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

 

ในแง่การพัฒนาและสมรรถนะการขับขี่ “เอชเอส” ดูดีกว่า “จีเอส” ทุกกระเบียดนิ้วครับ การออกแบบทันสมัยทั้งภายนอกภายใน ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกปลอดภัยแบบจัดเต็ม

ว่ากันที่รุ่นท็อป X ใส่ของเล่นมาเต็มที่สุดในเอสยูวีราคา 1.0 -1.2 ล้านบาท เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสารต้องพบกับลูกเล่นแพรวพราว ทั้งเบาะหนังแบบสปอร์ตสีแดง การรองรับแน่นๆแข็งๆคล้ายเบาะบักเก็ตซีต รวมถึงหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ขนาด 1.1 ตร.ม. หน้าจอแสดงผลกลางแบบทัชสกรีนขนาดใหญ่ 10 นิ้ว

MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

พวงมาลัยมาพร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชัน มีแป้นแพดเดิลชิฟต์เปลี่ยนเกียร์อยู่ด้านหลัง แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือปุ่มแดงๆ ตรงตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งเป็นปุ่มลัดเอาไว้กดเลือกโหมดซูเปอร์สปอร์ต (น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากปุ่มสปอร์ตโครโนของปอร์เช่) โดยระบบจะปรับการตอบสนองของพวงมาลัย เครื่องยนต์และเกียร์ เพิ่มความเร้าใจในการกดคันเร่งมากขึ้น

เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้า ส่งกำลังลงสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด เอ็มจีเคลมว่า เอสยูวีนํ้าหนักตันครึ่งรุ่นนี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ตํ่ากว่า 10 วินาที ซึ่งการขับจริงๆรถให้อารมณ์ดุดันในระดับหนึ่ง และจัดจ้านมากขึ้นเมื่อเลือกโหมดสปอร์ต

MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว MG HS เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

พวงมาลัยหนักแน่นแม่นยำ ช่วงล่างหนึบแน่นไม่โหวงเหวง แต่บางจังหวะของการเพิ่มความเร็ว ระบบขับเคลื่อนไม่ถึงกับเนียนมากนัก ตามสไตล์รถเครื่องยนต์ เทอร์โบ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนเกียร์มีอารมณ์กระตุกเล็กน้อย

เอชเอส สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง Eco Normal Sport และ Super Sport รวมถึง Custom ที่ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ

ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม แต่ส่วนตัวผมเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ต้องหาทางปิดระบบช่วยเตือนและควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางการวิ่งเป็นลำดับแรก โดยรถจะมีกล้องคอยจับการตีเส้นของถนน พร้อมดึงให้รถอยู่ตรงกลางเลนตลอดเวลา นั่นหมายความว่าท่านจะไม่ได้เป็นคนควบคุมรถคันนี้ 100%

หากมองในแง่ความปลอดภัยนั้นดีมากๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติ แต่การขับจริงบนท้องถนนเมืองไทยผมขอปิดระบบนี้แล้วควบคุมรถเองก่อนดีกว่า(สามารถกดปุ่มปิดระบบนี้ได้ตรงก้านควบคุมด้านซ้าย)

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามัน จากการลองวัดผ่านหน้าจอดิจิตอลหลังพวงมาลัยในหลายวาระ ส่วนใหญ่เป็นการขับในเมืองในช่วงการจราจรไม่แออัด ตัวเลขที่เห็นบ่อยคือ 9 ลิตร/100 กม. หรือประมาณ 11 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...เอชเอส เป็นรถขับสนุก มาพร้อมออพชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยเยอะที่สุดบรรดาเอสยูวีราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ คันเดียวจบแบบตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบ 

คอลัมน์เทสต์ไดร์ฟ

โดย : กรกิต กสิคุณ

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ 2563