มาแน่ มิตซูบิชิ ปลั๊ก-อินไฮบริดเปิดตัว ม.ค.64

15 ก.พ. 2563 | 01:00 น.

เผยแพ็กเกจลงทุนโครงการรถยนต์ไฟฟ้า 3,130 ล้านบาท ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประเดิมด้วย “เอาท์ แลนเดอร์ ปลั๊ก-อินไฮบริด” เปิดตัวมกราคม 2564 วางขาย 80-100 โชว์รูม จาก 245 โชว์รูม ส่วน “อีวี” ยื่นแผนแล้ว รอบีโอไออนุมัติ

หลังจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในโครงการรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊ก-อินไฮบริดเมื่อปีที่แล้ว และที่ผ่านมาเคยประกาศเตรียมขึ้นไลน์การผลิตที่โรงงานแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ภายในปีงบประมาณ 2563 ล่าสุดรายละเอียดของแผนงานดังกล่าวมีความชัดเจนยิ่งขึ้น

มาแน่ มิตซูบิชิ ปลั๊ก-อินไฮบริดเปิดตัว ม.ค.64

นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเปิดตัว “เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ในเมืองไทยเดือนมกราคม 2564 ภายใต้แพ็กเกจ ส่งเสริมการลงทุนรถปลั๊ก-อินไฮบริด มูลค่า 3,130 ล้านบาท

สำหรับเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน เพราะพลังงานจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ารวมกัน ทำให้รถวิ่งได้ไกล 680 กม. หรือในโหมด “อีวี” วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทาง 50-60 กม. พร้อมเปิดตัวเดือนมกราคม 2564 ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกยังไม่ได้ข้อสรุป

“เราหวังสร้างสังคมรถยนต์ไฟฟ้า โดยเริ่มจากปลั๊ก-อินไฮบริดก่อน และสเต็ป ต่อไปจะเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% อีวี” นายชกกิ กล่าว

เอกอธิ รัตนอารี - โมริคาซุ ชกกิ

ด้านนายเอกอธิ รัตนอารี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศและบริการหลังการขาย กล่าวว่า ตำแหน่งสินค้าของ “เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” จะเป็นคนละเซ็กเมนต์กับรถยุโรปอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู หรือลูกค้าเป็นคนละกลุ่มกัน

“ตอนนี้เรากำลังเตรียมความพร้อมก่อนที่จะแนะนำ “เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ทั้งการเทรนนิ่งพนักงานขายและบริการหลังการขาย รวมถึงการวางโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จไฟ เช่น ดีลเลอร์ต้องมีหัวชาร์จแบบ DC (ควิกชาร์จ) ที่ลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การขายและบริการหลังการขายไม่ใช่ว่าจะได้ทุกโชว์รูม อย่างปี 2564 บริษัท เตรียมขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการเป็น 245 แห่ง(ปัจจุบัน 229 แห่ง) ในจำนวนนี้จะได้สิทธิขาย “เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ประมาณ 80-100 แห่งเท่านั้น”

นายเอกอธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์ 7 รุ่น มีทั้งโมเดลใหม่และรุ่นพิเศษ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 8.8% ในปี 2562 เป็น 9% ใน ปี 2563 จากตลาดรวมคาดว่าจะทำได้ 9.2-9.5 แสนคัน

ขณะที่ผลการดำเนินงานของมิตซูบิชิ ในปี 2562 พบว่าเติบโต 4.4% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยมียอดขายรวม 88,244 คัน โดยแบ่งออกเป็น มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ขายได้ 35,807 คัน, มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ 16,196 คัน, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 13,558 คัน ส่วนอีโคคาร์อย่าง มิตซูบิชิ
แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ มียอดขายรวมกัน 22,683 คัน

มาแน่ มิตซูบิชิ ปลั๊ก-อินไฮบริดเปิดตัว ม.ค.64 มาแน่ มิตซูบิชิ ปลั๊ก-อินไฮบริดเปิดตัว ม.ค.64

ส่วนการส่งออก มิตซูบิชิ ในประเทศไทย ครองตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 โดยสามารถส่งออกรถยนต์รวมทั้งสิ้น 332,700 คัน ประกอบด้วยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) 284,500 คัน และรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) 48,200 คัน และในปี 2562 มิตซูบิชิ ได้ฉลองความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน

สำหรับการผลิตในปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ สามารถผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้น 407,200 คัน ประกอบด้วยรถยนต์สำเร็จรูป(BU) 353,500 คันและรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) 53,700 คัน

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3548 วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2563