นาย ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจภาพรวมที่ยังชะลอตัว การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เห็นผลของเม็ดเงินที่ไหลเวียนเข้าสู่ระบบ รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรยังตกต่ำ ทำให้ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2562 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรวมประมาณ 1.72 ล้านคัน และยามาฮ่าทำได้ 260,000 คัน ส่วนแบ่งการตลาดคงที่ 15%
ขณะที่ตลาดรวมรถจักรยานยนต์ในปี 2563 คาดว่าจะมียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 1.69 ล้านคัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่ยามาฮ่าได้ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตสวนทางตลาดรวม โดยประเมินไว้ที่ 270,000 คัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบจากปี 2562 และส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16%
"เป้าหมายของยามาฮ่าที่วางไว้ เติบโตเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะมั่นใจในตัวสินค้าที่เตรียมจะเปิดตัวสู่ตลาด รวมไปถึงการเจาะไปยังเซกเมนต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง เอ.ที.พรีเมียม และการชูกลยุทธรับประกันสินค้า 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการทำ"
สำหรับปัจจัยที่มีผลกับตลาดในปี 2563 คือหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงอยู่ , สินค้าพืชผลทางการเกษตร และความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่ปัจจัยบวกยังมีให้เห็น ได้แก่ การลงทุนต่างๆ, ท่องเที่ยว และการส่งออก
" ความต้องการซื้อรถยังมี แต่หนี้ครัวเรือนที่ยังสูงทำให้ลูกค้าที่มีหนี้สินอยู่แล้ว กู้ยากขึ้น"
ด้านนายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มศักยภาพของแบรนด์ยามาฮ่าในประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดเมืองไทยได้ครบทุกเซ็กเมนต์ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีคุณภาพ ด้วยการให้การรับประกันรถจักรยานยนต์ทั้งคัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร ในรถระดับต่ำกว่า 500 ซีซี.ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
"ถือเป็นการรับประกันสูงสุดครั้งแรกของโลกในกลุ่มสินค้าประเภทรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และจะช่วยกระตุ้นยอดขายของยามาฮ่าให้มีการเติบโตได้มากกว่าปีที่ผ่านมา"
พร้อมกันนี้บริษัทได้วางแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปีนี้ 4 รุ่น และล่าสุดได้เปิดตัวสีใหม่ของรถ 3 รุ่นได้แก่ ยามาฮ่า ฟินน์ ,ยามาฮ่า เอ็กซ์ไซเตอร์ 150 และยามาฮ่า จีที 125 โดยในรุ่น ฟินน์จะมอบโปรโมชันพิเศษได้แก่ รับประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง