ซูบารุกางแผนโตเล็งประกอบไฮบริด

29 ม.ค. 2563 | 03:20 น.

 

หลังจากค่ายซูบารุ ประกาศแต่งตั้ง “ตวัน คำฤทธิ์” จากตำแหน่ง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดมาสู่การเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563 โดยตำแหน่งใหม่นี้จะมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบอะไรบ้าง และจะนำพาซูบารุไปในทิศทางไหน วันนี้ฐานยานยนต์ มีบทสัมภาษณ์มานำเสนอ

ภารกิจหลัก

ท่ามกลางภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดว่าจะลดลง หรือคงที่ แต่ตนมองว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ โดยหน้าที่ใหม่ที่จะเข้ามาดูแล คือ รับผิดชอบการขาย ,การพัฒนากลยุทธ์ตลาด, การบริการหลังการขาย รวม ถึงการพัฒนาผู้จำหน่ายทั้งหมดของซูบารุในประเทศไทยให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยหน้าที่ทั้งหมดนี้จะรายงานตรงต่อฟิลลิป ลู ผู้อำนวยการใหญ่ สายงานขายและการจัดการตลาดส่วนภูมิภาค กลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ

ตวัน คำฤทธิ์

 

 
เป้าหมาย

ในแง่ยอดขาย ปีนี้คาดว่าจะทำได้ 5,640 คัน หลักๆยังคงมาจาก ฟอเรสเตอร์ 70% หรือประมาณ 3,800- 3,900 คัน และที่เหลือคือรุ่นอื่นๆ โดยเป้าที่วางไว้ถือว่าเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2562 และ 2561 ที่ขายได้ 3,900 คัน และ 2,100 คัน ตามลำดับ

ขณะที่เป้าหมายของโรงงาน ในปีที่ผ่านมาผลิตได้ 6,000 คัน (ในช่วง 9 เดือนที่เริ่มทำการ) และในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 1 หมื่นคัน ซึ่งบริษัทจะผลิตและจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศไทย รวมไปถึงส่งออกไปยังมาเลเซีย และ เวียดนาม

กลยุทธ์รุกตลาด

สิ่งที่ซูบารุจะทำคือการสร้างแบรนด์ อย่างต่อเนื่อง โดยจะสื่อสารผ่านโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือกิจกรรมต่างๆ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้รถ-ผู้ที่เป็นลูกค้าของเรา ว่ารถยนต์ที่จำหน่ายนั้นผลิตขึ้นมาจากโรงงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความทันสมัย มีอะไหล่ไว้รองรับ ในแง่ของเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ จากเดิมปี 2562 มี 34 แห่ง ภายในสิ้นปี 2563 จะเพิ่มเป็น 45 แห่ง ซึ่งหลักๆจะกระจายอยู่ตามต่างจังหวัด ตรงจุดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเรามีเครือข่ายไว้รองรับ

ขณะที่แผนงานด้านโปรดักต์ หรือรถยนต์รุ่นใหม่นั้น จะเปิดตัว ฟอเรสเตอร์ จีที อิดิชัน ซึ่งเป็นรุ่นย่อย ที่มีการอัพเกรดอุปกรณ์-อินโฟซิสเต็มต่างๆเข้ามา หลังจากนั้นในช่วงสิ้นปีจะบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ และใส่เทคโนโลยีอายไซต์ (Eyesight) ครบทุกรุ่น ดังนั้นการสื่อสารตลาดหลังจากนี้จะเน้นถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีอยู่ในรถของซูบารุว่าจะปกป้องผู้โดยสารอย่างไรบ้าง

นอกจากนั้นแล้วซูบารุ กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาโมเดลฟอเรสเตอร์ อี-บ๊อกเซอร์ ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดที่ได้เปิดตัวไปแล้วที่สิงคโปร์ โดยบริษัทคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 2-3ปี ในการตัดสินใจว่าจะประกอบรถรุ่นนี้จากโรงงานประเทศไทยหรือไม่

 
 
ภาพรวมการแข่งขันปี 63

เบื้องต้นมองว่าตลาดรถยนต์ในปี 2563 อาจจะไม่ถึง 1 ล้านคัน เพราะผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย การตัดสินใจซื้อรถยนต์แต่ละคันจะศึกษามากขึ้น หรือหากใครที่จะเปลี่ยนรุ่นใหม่ก็ยืดระยะเวลาออกไปก่อน โดยบางเซ็กเมนต์อาจจะเติบโตเล็กน้อย แต่บางเซ็กเมนต์จะลดลง และประเมินว่ากลุ่มที่จะได้รับผลกระทบคือรถที่ราคา ตํ่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้คือ ภาวะเศรษฐกิจ ทั้งของไทย และทั่วโลก ขณะที่ความเข้มงวดของไฟแนนซ์ - สถาบันการเงิน ปีนี้จะตรวจสอบมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งข้อที่มีผลกับผู้ผลิตคือ ค่าเงิน ที่กระทบกับการส่งออก โดยซูบารุ ส่งรถไปยังมาเลเซีย และเวียดนาม หากค่าเงินบาทยังแข็งค่ามาก ก็ต้องการวางแผนเพื่อบริหารจัดการและปรับแผนส่งออกให้เหมาะสม

ด้านการแข่งขันในตลาดนั้นถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะในเซ็กเมนต์รถอเนกประสงค์ (SUV)ที่มีทั้งผู้เล่นหน้าเก่า-หน้าใหม่ โดยมองว่ารถในกลุ่ม SUV ไม่ว่าจะเป็น B-SUV, C-SUV, PPV มีแนวโน้มเติบโต เพราะตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการรถยนต์ที่มีความสูง-ขนของได้มาก-ใช้เดินทางได้หลากหลาย จากเทรนด์ดังกล่าวทำให้หลายค่ายเห็นโอกาสและเปิดตัวรถในเซ็กเมนต์นี้มากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลดีให้กับผู้บริโภคที่มีตัวเลือกมากขึ้นเช่นเดียวกัน

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,543 วันที่ 26-29 มกราคม 2563