เซ็กเมนต์ปิกอัพ 1 ตัน ปี 2562 ทำยอดขายได้ 431,702 คัน ลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับปี 2561 (447,081 คัน) จากตลาดรวม 1,005,267 คัน
ปิกอัพเมืองไทยถือเป็นตลาดใหญ่ มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ด้วยการใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อทำตลาดในประเทศและส่งออก จากความได้เปรียบของต้นทุนต่อหน่วยการผลิต ส่งผลให้การขายรถมีกำไรต่อคันสูง
ข่าวเด่นฐานเศรษฐกิจ
ตระกูลดัง-บ้านโบราณ ไม่สะท้าน ภาษีที่ดิน
เอกชนร้องคนกลุ่มเดียวทำศก.พัง ไตรมาสแรกจ่อไอซียู
ปี 2562 หลายค่ายพยายามเพิ่มความสดใหม่ ทั้งการบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ของ มิตซูบิชิ ไทรทัน และการปรับเล็กๆน้อยๆและเพิ่มรุ่นย่อยของฟอร์ด เรนเจอร์ ส่วนพี่ใหญ่โตโยต้า เน้นตลาดกลางล่าง ด้วยรุ่นตัวถังเตี้ยเกียร์อัตโนมัติ ชูราคาใหม่ที่รองรับนํ้ามันดีเซลB 20 (โหมตลาดด้วยประเด็นนี้จริงจังเป็นค่ายแรก) ขณะที่อีซูซุ เปิดตัว ดีแมคซ์ โฉมใหม่ ในเดือนตุลาคม
ช่วงปลายปี แม้ “อีซูซุ” จะได้พลานุภาพพลิกโลกของดีแมคซ์ โฉมใหม่ ส่งผลให้ยอดขาย 2 เดือนสุดท้ายพุ่งกระฉูด โดยเดือนพฤศจิกายนทำได้ 12,733 คัน เดือนธันวาคมอีก 13,909 คัน ทว่าเป็นเพียงการชดเชยตัวเลขช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านั้น ที่ทำยอดขาย 9,000-10,000 คันต่อเดือน(เป็นปกติของช่วงรอยต่อรถที่กำลังเปิดตัวใหม่)
สุดท้ายโตโยต้าปิดเกมด้วยการเป็นแชมป์ปิกอัพเมืองไทยอีกสมัย ด้วยการทิ้งอีซูซุ 21,759 คัน เพิ่มช่องว่างห่างจากปี 2561 ที่โตโยต้าเฉือนไปแค่ 1,350 คัน
สรุปยอดขายปี 2562 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ทำได้ 165,452 คัน โต 9.6%ส่วน อีซูซุ ดีแมคซ์ 143,693 คัน ลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับปี 2561
ขณะที่กลุ่มดิวิชัน 2 ขับเคี่ยวกันสนุกระหว่างฟอร์ด กับ มิตซูบิชิ และตามที่ “ฐานยานยนต์” เคยนำเสนอข่าวไปแล้วว่า ค่ายปิกอัพจากอเมริกันยังกอดที่ 3 เหนียวแน่น โดย เรนเจอร์ ขายไป 43,379 คัน ลดลง 21.8% ส่วน ไทรทัน ตามมาที่ 35,807 คัน ลดลง 10.4%
ด้าน “นิสสัน นาวารา” ที่ในปี 2562 ไม่มีอะไรหวือหวายังทำผลงานได้น่าพอใจด้วยยอดขาย 25,036 คัน ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่ทำได้ 25,116 คัน
ตามด้วย “เชฟโรเลต โคโลราโด” 11,540 คัน ลดลง 35.8% และ “มาสด้า บีที-50” 5,664 คัน ลดลง 24.5% ซึ่ง 2 ค่ายนี้มีคิวเปิดตัวปิกอัพโฉมใหม่ภายในปี 2563
สำหรับเชฟโรเลต พร้อมเปิดตัว “โคโลราโด โฉมใหม่” ช่วงกลางปีนี้ (ก่อนหน้าพีพีวี เทรลเบลเซอร์ เล็กน้อย) ซึ่งเป็นการพัฒนาขึ้นมาใหม่หมดทั้ง แชสซีส์และเครื่องยนต์
ส่วนปิกอัพรุ่นใหม่ของ “มาสด้า” ที่ครั้งนี้บุกตลาดด้วยการจ้างอีซูซุ มอเตอร์ ผลิตให้ (เดิมใช้ฟอร์ด) แต่ดีลนี้มีเงื่อนไขคือ ต้องเปิดตัวช้ากว่า “ดีแมคซ์ โฉมใหม่” อย่างน้อย 1 ปี นั่นหมายความว่าฤกษ์คลอดของปิกอัพมาสด้าจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน 2563
แม้ยอดขาย บีที-50 โปร จะไม่ได้อยู่ในลำดับต้นๆในเซ็กเมนต์ปิกอัพเมืองไทย แต่มาสด้าถือว่าปิกอัพเป็นโปรดักต์ที่ขาดไม่ได้ หรือเป็นเสาหลักในการทำตลาดคู่กับเก๋งเล็กอย่าง “มาสด้า 2” และเชื่อว่าหลังการเปิดตัวจะทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำกว่าตอนนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม มาสด้ายังไม่มีแผนจ้างอีซูซุผลิตพีพีวี หรือทำตลาดเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานปิกอัพ เพราะตอนนี้กลุ่มเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานรถยนต์นั่ง มีให้เลือกทั้ง“ซีเอ็กซ์-5” และรุ่นใหญ่ “ซีเอ็กซ์-8” (มีให้เลือกทั้งรุ่น 6 และ 7 ที่นั่ง)
สำหรับผลประกอบการมาสด้า ปี 2562 รุ่นขายมากที่สุดคือ มาสด้า 2 จำนวน 41,987 คัน ตามด้วย บีที-50 โปร 5,664 คัน อื่นๆแบ่งเป็น มาสด้า 3 จำนวน 4,717 คันซีเอ็กซ์-5 จำนวน 3,020 คัน ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 1,971 คัน ซีเอ็กซ์-8 จำนวน 745 คัน และเอ็มเอ็กซ์-5 ทำได้ 25 คัน
หน้า28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 3,542 วันที่ 23 - 25 มกราคม พ.ศ. 2563