'มาสด้า'จัดเต็มเอสยูวีเพิ่มCX-30ประกอบไทย
มาสด้าสุดคึกรับปีหนูไฟด้วยโปรดักต์ในมือมากที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจในไทย ทั้งเก๋งเล็ก เอสยูวี ประเดิมด้วย “ซีเอ็กซ์-30” ในเดือนมีนาคม คาดราคา 9 แสน-1 ล้านบาท ก่อนปิกอัพโฉมใหม่ที่จ้างอีซูซุผลิตจะตามมาปลายปีนี้
ค่ายรถยนต์ที่ร้อนแรงในช่วง 10 ปีหลัง คงไม่มีใครเกิน “มาสด้า” จากยอดขายหลัก 1-2 หมื่นคันต่อปี สู่กว่า 7 หมื่นคันในปี 2561 ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจในไทย และเป็นประเทศที่ทำยอดขายอยู่ในอันดับ 6 ของมาสด้าทั่วโลก
แม้ปี 2562 ยอดขายจะลดลงเหลือ 58,129 คัน ตํ่ากว่าเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นไปตามสภาพตลาด และค่ายรถยนต์หลายแบรนด์ต่างมีตัวเลขติดลบกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ดียอดขายของตลาดรวมยังทำได้ 1,006,591 คัน
ปีนี้มาสด้า หมายมั่นปั้นมือเต็มที่ว่าจะพลิกยอดขายกลับมาเติบโตอีกครั้ง ด้วยความพร้อมของโปรดักต์ที่มีรุ่นให้เลือกมากที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจในไทยมา ทั้งเส้นเลือดใหญ่ มาสด้า2 เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ปลายปี 2562 รวมถึงมาสด้า 3 โมเดลเชนจ์ ขณะที่กลุ่มเอสยูวีมีให้เลือกเพียบตั้งแต่ราคาล้านต้นๆ ไปจนถึง 2 ล้านบาท ทั้งรุ่น ซีเอ็กซ์-8 ซีเอ็กซ์-5 (เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ) ส่วนรุ่นเล็กอย่าง ซีเอ็กซ์-3 แม้ยอดขายจะน้อย แต่มาสด้ายังยืนยันว่าจะขายโมเดลนี้ควบคู่ไปกับรุ่นใหม่อย่าง ซีเอ็กซ์-30 ที่กำลังจะเปิดตัวภายในไตรมาสแรกปี 2562
“เราจะประกอบซีเอ็กซ์-30 ที่โรงงานเอเอที จ.ระยอง (มีกำลังผลิตสูงสุด 1.35 แสนคันต่อปี และอีกครึ่งหนึ่งเป็นของฟอร์ด) โดยปิกอัพจะย้ายไปผลิตที่โรงงานของอีซูซุ” นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้าเซลส์ ประเทศไทย กล่าวและว่า
“ตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่สูงมาก แม้ว่ามาสด้าจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลงสู้ในตลาดถึง 6 รุ่น และทั้งหมดอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่กลับทำยอดขายได้ถึง 58,129 คัน (ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับปี 2561) สามารถครองส่วนแบ่งการตลาด 5.8% ซึ่งถือเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดของมาสด้าทั่วโลก” นายชาญชัย กล่าวสรุป
สำหรับยอดขาย3มาสด้าในปี 2562 แบ่งเป็นรุ่น มาสด้า 2 จำนวน 41,987 คัน มาสด้า 3 จำนวน 4,717 คัน ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 1,971 คัน ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 3,020 คัน ซีเอ็กซ์-8 จำนวน 745 คัน ปิกอัพ บีที-50 โปร 5,664 คัน และสปอร์ตโรดสเตอร์ เอ็มเอ็กซ์-5 ทำได้ 25 คัน
จากการสำรวจของ “ฐานยานยนต์” กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เตรียมทำตลาดเร็วๆนี้อย่างมาสด้า “ซีเอ็กซ์-30” เป็นเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์ 5 ที่นั่งรุ่นใหม่ เปิดตัวในญี่ปุ่นช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 โดยใช้พื้นฐานการพัฒนาเดียวกับ มาสด้า 3 ตัวรถจะมีขนาดใหญ่กว่า “ซีเอ็กซ์-3” ตอบโจทย์เรื่องความอเนกประสงค์มากขึ้น แต่ระดับในการทำตลาดยังตํ่ากว่า “ซีเอ็กซ์-5” ที่ประกอบในมาเลเซีย ซึ่งมีให้เลือก
3 เครื่องยนต์คือ เบนซิน 2.0 ลิตร ดีเซล 2.2 ลิตร และเบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ ราคา 1.3-1.85 ล้านบาท ขณะที่ “ซีเอ็กซ์-30” จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร คาดว่าจะตั้งราคาอยู่ในช่วง 9 แสน -1.1 ล้านบาท
นอกจากกลุ่มรถยนต์นั่ง ที่มีระดับราคาให้เลือกหลากหลายและต่อยอดการขายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตามแผนงานของมาสด้า ช่วงปลายปีนี้แล้ว ยังเตรียมเปิดตัว “ปิกอัพ โฉมใหม่” ที่ว่าจ้างอีซูซุผลิตให้ แน่นอนว่าใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมของ “ดีแมคซ์ โฉมใหม่” ที่เพิ่งเปิดตัวปลายปี 2562 ซึ่งตามสัญญาที่มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กับ อีซูซุ มอเตอร์ คุยกันไว้คือ มาสด้าต้องเปิดตัวปิกอัพรุ่นนี้ หลังจาก ดีแมคซ์ อย่างน้อยหนึ่งปี
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจไทยปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัว 2.8-3.0% โดยต้องการแรงหนุนจากภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลัง นอกเหนือไปจากการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังมีความสำคัญยิ่งกับมาสด้า เพราะกำลังก้าวเข้าสู่การเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 100 ปีของ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งจะเริ่มคิกออฟในวันที่ 30 มกราคม และมาสด้า ประเทศไทย ได้เตรียมความพร้อมในทุกมิติ เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้ เช่นเดียวกันกับมาสด้าทั่วโลก
“แน่นอนว่าเรากำลังเตรียมโปรเจ็กต์สำคัญ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง ขณะที่เป้าหมายการขายปี 2563 คาดว่าตลาดรวมจะอยู่ประมาณ 1 ล้านคัน หรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในส่วนมาสด้ามั่นใจว่าจะทำได้เกิน 60,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6%” นายชาญชัย กล่าว
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,540 วันที่ 16 - 18 มกราคม พ.ศ. 2563