ลองขับ"ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่"ครั้งแรกในโลก...ซื้อเลยไหม?

 

ฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้รถยังไม่ลงโชว์รูมนะครับ ใครอยากเห็นต้องรอถึงวันที่ 24 ธันวาคมนี้ และจะเริ่มทยอยส่งมอบให้ลูกค้าตามรุ่นตามสีที่ต้องการทันที ซึ่งดูตามจังหวะเวลาและค่านิยมที่ผ่านๆ มาของคนไทยแล้ว บางท่านอาจจะเลือกรับรถหลังปีใหม่ หรือเตรียมจดทะเบียนต้นปีหน้า เพื่อให้ถูกตีตราว่าเป็นรถปี 2563

ใครขับก่อนเท่ก่อนละครับ ตั้งแต่เปิดตัวไม่ถึงเดือนมียอดจองเข้ามาร่วม 5,000 คันแล้ว แบ่งเป็นสัดส่วนของรุ่นท็อป RS 40% รองท็อป SV 45% อีก 15% เป็นรุ่นย่อยอื่นๆ

สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล  (ประเทศไทย) จำกัด เชิญผู้สื่อข่าวกลุ่มเล็กๆ ไปทำความรู้จัก ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 เพิ่มเติมที่สนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี

รุ่นใหม่ยังใช้แพลตฟอร์มเดิม แต่นำมา “รีดีไซน์” กล่าวคือ อะไรที่เป็นของเดิมแล้วดีก็ใช้ต่อไป แต่มีปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับโครงสร้างวิศวกรรมยานยนต์รวมๆ ขณะที่ตัวรถมากับแนวคิด Wide and Low ตัวถังยาวขึ้น 113 มม. กว้างขึ้น 53 มม. เตี้ยลง 10 มม. แต่ระยะฐานล้อกลับสั้นลง 11 มม.

เรื่องระยะฐานล้อที่สั้นลง เมื่อเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารยังพบว่ามีที่ใช้สอยเหลือเฟือ โดยเฉพาะตำแหน่งนั่งด้านหลัง ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบเบาะนั่งใหม่ ฮอนด้าระบุว่าระยะช่วงเข่ากับเบาะหน้าก็เพิ่ม เช่นเดียวกับส่วนเท้าสามารถยืดไปข้างหน้าได้มากขึ้น 31 มม. อย่างไรก็ตาม พนักพิงเบาะหลังไม่สามารถพับลงได้เหมือนรุ่นเดิม ตรงนี้ลดความอเนกประสงค์ไปพอสมควร

อีกจุดที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ การย้ายตำแหน่งกระจกมองข้างจากที่เคยอยู่ตรงเสาเอพิลลาร์ ให้มาอยู่ตรงประตูรถ หวังเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่

ฮอนด้าพยายามปรับปรุงการเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารให้ดีขึ้น ทั้งการเพิ่มฉนวนใต้ห้องเครื่องยนต์อีก 3 เท่า และฉีดโฟมเข้าไปยังโคนเสาเอพิลลาร์ และบีพิลลาร์ ตรงที่เป็นจุดเชื่อมรอยต่อ

ส่วนขุมพลังเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 117 แรงม้า มาเป็นบล็อก 3 สูบ 1.0 ลิตร ไดเร็กต์อินเจ็กชัน เทอร์โบ 122 แรงม้า ตามหลักการดาวน์ไซซิ่ง โดยปล่อยไอเสีย 99 กรัม/กม. และอัตราบริโภคนํ้ามัน 23.8 กม./ลิตร ผ่านตามมาตรฐานอีโคคาร์เฟส 2

เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ที่ฮอนด้าสื่อสารการตลาดว่า VTEC TURBO นำจุดเด่นของระบบฉีดนํ้ามันตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ด้วยปั๊มนํ้ามันแรงดันสูง พร้อม Dual VTC ระบบแคมชาฟต์ที่ควบคุมการกดองศาการเปิด-ปิดวาล์วไอดี และระบบแปรผันระยะยกของวาล์ว VTEC รวมๆคือ สามารถเปิดกว้าง-เปิดแคบ เปิดเร็ว-เปิดช้า บริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปล่อยอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้

นอกจากนี้ยังเลือกใช้อินเตอร์คูลเลอร์แบบนํ้า มาช่วยระบายความร้อนอากาศที่มาจากการบูสต์ของเทอร์โบ ซึ่งข้อดีคือทำงานได้รวดเร็วและมีขนาดเล็กกว่าอินเตอร์คูลเลอร์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ขณะที่ระบบช่วยหายใจ “เทอร์โบชาร์จ” ใช้เวสต์เกตไฟฟ้าควบคุมการนำไอเสียกลับมาใช้ใหม่

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาคือระบบ Idle Stop ดับเครื่องยนต์เมื่อรถจอดหยุดนิ่ง (มีปุ่มควบคุมการเปิด/ปิด) โดยฮอนด้า ยอมรับว่านอกเหนือจากการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่แล้ว ต้องมีระบบนี้เข้ามาช่วย รถถึงจะผ่านมาตรฐานไอเสีย/อัตราบริโภคนํ้ามันของอีโคคาร์เฟส 2

อย่างที่เคยเรียนไปครับ ฮอนด้า ปิดฉากโครงการอีโคคาร์เฟสแรก กับ “บริโอ้” ไปแล้ว แบบไม่ประสบความสำเร็จในยอดผลิต(มีผลต่อการลดหย่อนภาษีนิติบุคคลรายปี) ตอนนี้เริ่มนับหนึ่งใหม่กับ “ซิตี้”ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 โดยสิทธิประโยชน์ที่ส่งผลกับราคาขายเต็มๆคือ รับภาษีสรรพสามิตแค่ 12% ตํ่ากว่า ซิตี้ โฉมเดิมที่เสีย 20%

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ แบ่งการขายเป็น 4 รุ่นย่อย ไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดา โดยรุ่น S,V,SV ราคาลดลง 9,500, 40,000 และ 71,000 บาทตามลำดับ ส่วนรุ่นย่อยใหม่ RS ที่มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ประกบยาง 185/55 R16(รุ่นอื่นๆล้อ 15 นิ้ว) การตกแต่งภายในโทนเข้ม เบาะนั่งใช้วัสดุ 3 แบบ คือหนังกลับ, หนังเทียม และผ้า ราคา 739,000 บาท (ซิตี้ โฉมเก่า รุ่นท็อป SV+ ราคา 751,000 บาท)

รุ่น RS ที่ฮอนด้านำมาให้ลองขับที่สนามพรูฟวิ่งกราวด์รูปไข่ ยาว 2.18 กม./รอบ และภายในยังมีสนามเล็ก 17 โค้ง ความยาว 1.38 กม. วันนั้นแต่ละคนได้ขับรวม 2 รอบครับ สัมผัสแรกรับรู้ถึงการตอบสนองของเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร ประกบเกียร์ CVT สายพานโลหะที่พัฒนาใหม่ ให้รองรับกับแรงม้าแรงบิดสูง ช่วยส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หน้าได้ต่อเนื่อง สามารถเร่งเติมความเร็วได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นเดิม 4 สูบ 1.5 ลิตร บุคลิกของการตอบสนองอาจจะต่างกันเล็กน้อย

การขับสั้นๆ รับรู้ว่า ซิตี้ โฉมใหม่ รุ่น RS เซตช่วงล่างและการควบคุมได้หนึบแน่น ตรงนี้พัฒนาขึ้นจากเดิมชัดเจน ช่วงเข้าโค้ง-ออกโค้ง บางช่วงทางเป็นหลุม รถทรงตัวดีไม่มีอาการสะดุ้งสะท้าน และบนความเร็ว 100 กม./ชม. ยังถือพวงมาลัยได้นิ่งๆสบายมือ ส่วนสัมผัสของระบบเบรกกับระยะชะลอหยุดอยู่ในระดับมาตรฐาน (หน้าดิสก์,หลังดรัม) แถมนิ่มนวลไม่หน้าทิ่มหัวจิก

ช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า ฮอนด้าเตรียมจัดให้ทดสอบเต็มๆอีกครั้งบนท้องถนนจริง ถึงวันนั้นเราน่าจะรับรู้ศักยภาพและบุคลิกของ ซิตี้ โฉมใหม่ ได้ลึกซึ้งมากขึ้น

รวบรัดตัดความ...ผู้บริหาร ระดับสูงของฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย มั่นใจว่า ซิตี้ โฉมใหม่ ทำออกมาแบบนี้ถือเป็นรถดีที่สุดในคลาส ทั้งคุณค่าของรถและสิ่งที่ได้รับเกินราคาที่ขายไปมาก ใครซื้อไปคุ้มค่า ภายใต้แบรนด์ฮอนด้าที่ดูดีมีระดับ ซึ่งจะว่าไปผมค่อนข้างคล้อยตามที่ท่านพูดนะครับ หากมองในแง่การพัฒนาและการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ถ้ามองว่าอีโคคาร์ราคาขนาดนี้ก็สูงไปนิด เหมือนกับตอนที่ “มาสด้า 2” เปิดตัวใหม่ๆนั่นละครับ แต่สุดท้ายก็ขายได้อยู่ดี เพราะคนเชื่อมั่นในแบรนด์ ภูมิใจกับของที่เชื่อว่าพรีเมียมกว่า

คอลัมภ์ เทสต์ไดร์ฟ  : กรกิต กสิคุณ