Roma ม้าลำพองแห่งเมืองหลวง

07 ธ.ค. 2562 | 01:20 น.

Roma (โรม) คืออีกหนึ่งเมืองที่ถูก “เฟอร์รารี่” เอามาตั้งเป็นชื่อรถของตัวเอง แต่คราวนี้เล่นใหญ่ระดับเมืองหลวงของประเทศ โดยสปอร์ตคาร์จากอิตาลีรุ่นนี้เสริมทัพเข้ามาทำตลาดเป็นโมเดลที่ 7 จากปัจจุบันที่ขาย พอร์โตฟิโน,488 พิสตา/สไปเดอร์,จีทีซี4 ลุซโซ/ลุซโซ ที, เอฟ8 ทริบูโต้/สไปเดอร์, 812 ซูเปอร์ฟาสต์ และ เอสเอฟ 90 สตราเดเล

เฟอร์รารี่ โรมา (Ferrari Roma) เป็นรถในกลุ่มจีที มากับตัวถังคูเป้ 2 ประตู 2 ที่นั่ง เครื่องยนต์วางหน้า แต่สไตล์การออกแบบดูเนียนตาเรียบง่าย ไม่ออกแนวดุดันหรือเส้นสายกรีดคมเหมือนพี่น้องรุ่นอื่นๆ ของค่าย

ด้วยแนวคิดที่พยายามสื่อถึง “อิตาเลียนสไตล์” ขนานแท้ สะท้อนภาพวิถีชีวิตและความสุขของกรุงโรมยุค ‘50s และ ’60s จึงเป็นที่มาของการใช้ชื่อ “โรมา” กับสปอร์ตคาร์รุ่นนี้

Roma ม้าลำพองแห่งเมืองหลวง

ทีมวิศวกรของเฟอร์รารี่ ยังพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ในส่วนต่างๆ ทั้งจุดใหญ่ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ เช่น การออกแบบสปอยเลอร์ให้ซ่อนอยู่ในกระจกหลังได้อย่างกลมกลืน ดูแล้วสะอาดตาหรูหรา แต่ยังทำหน้าที่เพิ่มดาวน์ฟอร์ซให้รถ ด้วยการยกตัวขึ้นอัตโนมัติเมื่อขับบนความเร็วสูง

เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.9 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 760นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 -5,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.4 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ภายใน 9.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม.

Roma ม้าลำพองแห่งเมืองหลวง

Roma ม้าลำพองแห่งเมืองหลวง

ขุมพลังบล็อกนี้มาพร้อมระบบควบคุมแรงบูสต์แบบแปรผัน (Variable Boost Management) ช่วยให้คันเร่งตอบสนองฉับไวในทุกจังหวะความเร็ว พร้อมออกแบบระบบทางเดินไอเสียใหม่ทั้งหมด ขณะที่ชุดเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด มีขนาดกะทัดรัดและเบากว่าเกียร์ 7 สปีดรุ่นเดิมถึง 6 กิโลกรัม

ด้านโครงสร้างตัวถังถูกพัฒนาใหม่ แม้มีข้อสังเกตว่า “โรมา” อาจจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ “พอร์โตฟิโน” (ระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,670 มม.) ซึ่งเฟอร์รารี่ ไม่ยืนยันในเรื่องนี้ เพียงแต่ยํ้าว่า ชิ้นส่วนกว่า 70% เป็นของใหม่ทั้งหมด โดยตัวถังและแชสซีส์ พยายามออกแบบให้เหมาะสมกับการลดนํ้าหนักบนรูปทรงสปอร์ตคูเป้หลังคาแข็ง ส่งผลให้รถมีอัตราส่วนนํ้าหนักต่อแรงม้าดีที่สุดในคลาสที่ 2.37 กก./แรงม้า

โรมา โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบเมทริกซ์แอลอีดี และระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ (ADAS - Advanced Driver Assistance System) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ อะแดพทีฟ ทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมการลื่นไถลด้านข้างเวอร์ชัน 6.0 (Side Slip Control 6.0) ถือเป็นสปอร์ตคาร์จีทีคันแรกของเฟอร์รารี่ที่ใช้ระบบนี้ ด้วยสวิตช์มาเนตติโน 5 ตำแหน่ง และระบบเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว (Ferrari Dynamic Enhancer) ควบคุมองศาการเอียงของตัวรถ ด้วยการปรับแรงดันนํ้ามันเบรกที่คาลิเปอร์โดยตรง

Roma ม้าลำพองแห่งเมืองหลวง

ภายในห้องโดยสารมีรูปแบบที่แบ่งแยกฝั่งผู้ขับ กับผู้โดยสารออกจากกันตามสไตล์เฟอร์รารี่ยุคใหม่ ส่วนพวงมาลัยออกแบบใหม่ตามปรัชญา “สายตาอยู่ที่ถนนเบื้องหน้า มือจับบนพวงมาลัย” ด้วยการวางปุ่มควบคุมฟังก์ชันหลักๆ ให้ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย พร้อมแสดงผลผ่านจอดิจิทัลขนาด 16 นิ้ว และจอแสดงผลส่วนกลางขนาด 8.4 นิ้ว ไม่รวมอีกหนึ่งจอฝั่งผู้โดยสาร

“เฟอร์รารี่ โรมา” ยังไม่กำหนดช่วงเวลาในการส่งมอบรถ และราคาขาย แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 20-25 ล้านบาท  

คอลัมน์ นิวอัลไรอัล

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,528 วันที่ 5 - 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562