กลุ่มยานยนต์แห่ลดเป้าผลิต

20 พ.ย. 2562 | 09:45 น.

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกาศปรับเป้ายอดผลิตทั้งรถยนต์ - รถจักรยานยนต์ หลัง 10 เดือนตัวเลขลดลงทั้งตลาดในประเทศและส่งออก

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หลังจากเดือนตุลาคม 2562 กลุ่มฯได้มีการปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ จาก 2.15 ล้านคัน เป็น 2 ล้านคัน หรือลดลง 1.5 แสนคัน

ล่าสุดในส่วนของรถจักรยานยนต์ ก็ได้ปรับลดเป้าหมายที่เคยประมาณการณ์ไว้ จากเดิมที่จะผลิต  2.140 ล้านคัน ก็ลดลงเหลือ  2.1 ล้านคัน (ลด 4 หมื่นคัน) โดยแบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออก 3.5 แสนคัน (เดิม 3.6 แสนคัน) และขายในประเทศ 1.750 ล้านคัน (เดิม 1.780 ล้านคัน) อย่างไรก็ดีตัวเลขยอดผลิตที่ปรับลดลงมา เมื่อเทียบกับปี 2561 ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.79 %

กลุ่มยานยนต์แห่ลดเป้าผลิต

ขณะที่สถานการณ์ยอดผลิตในช่วง 10 เดือน 2562 (มกราคม - ตุลาคม)พบว่า รถยนต์ผลิตได้  1,725,414 คัน ลดลง 4.21 % เมื่อเทียบกับปี 2561 เฉพาะเดือนตุลาคม 2562 ผลิตได้ 152,787 คัน ลดลง 22.52%  ส่วนรถจักรยานยนต์ 10 เดือนผลิตได้ 2,079,865 คัน ลดลง  2.37 % เฉพาะเดือนตุลาคม 2562 ผลิตได้ 219,308 คัน เพิ่มขึ้น 8.93 %

กลุ่มยานยนต์แห่ลดเป้าผลิต

เมื่อมาดูยอดขายรถยนต์ พบว่า ตั้งแต่มกราคม - ตุลาคม 2562 รถยนต์มียอดขาย 838,968 คัน เพิ่มขึ้น 0.7 % จากปี 2561 แต่เมื่อดูตัวเลขยอดขายเฉพาะเดือนตุลาคม ขายได้  77,121 คัน ลดลง 11.3 % ขณะที่รถจักรยานยนต์ 10 เดือนมียอดขาย 1,469,514 คัน ลดลง 2.4 % แต่เมื่อไปดูเฉพาะตุลาคม พบว่า เพิ่มขึ้น 2.3 %  หรือทำได้ 142,434 คัน

 

ส่วนตลาดต่างประเทศ เดือนมกราคม - ตุลาคม 2562 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 906,653 คัน ลดลง 4.78 % หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 469,002.46 ล้านบาท ด้านตัวเลขส่งออกในเดือนตุลาคม 2562 ทำได้ 85,552 คัน ลดลง 8.34 % ส่วนตัวเลขส่งออกรถจักรยานยนต์ 10 เดือน 2562  มีจำนวน 757,516 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้น 7.22 %  โดยมีมูลค่า 55,870.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8 % ส่วนตัวเลขส่งออกเดือนตุลาคมทำได้84,047 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้น 36.44 % โดยมีมูลค่า 5,647.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.42%

 

“ยอดขายภายในประเทศลดลง เป็นผลมาจากความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ และผลกระทบจากน้ำท่วมในหลายพื้นที่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่วนตลาดส่งออกก็ลดลงเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง และอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ซึ่งสาเหตุที่ลดลงเป็นผลมาจากประเทศคู่ค้าประสบกับภาวะเศรษฐกิจทำให้ชะลอตัว” นายสุรพงษ์ กล่าว