เอ.พี.ฮอนด้า จับมือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดตัว PCX Electric Smart Station โครงการนำร่องเพื่อศึกษารูปแบบ EV Sharing ครั้งแรกในประเทศไทย
นาย ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2015ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนยานพาหนะไฟฟ้าหรือ EV บริษัทฯได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาทั้งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและระบบที่สามารถรองรับการใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อไม่นานมานี้ได้จับมือร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีในการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้ EV เพื่อพัฒนาระบบรองรับที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
ล่าสุดความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายได้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น กับการเปิดตัวสถานี PCX Electric Smart Station แห่งแรกของไทย เพื่อทดลองศึกษารูปแบบของ EV Sharing หรือการแบ่งปันการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดย PCX Electric Smart Station ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีมากมาย อาทิ หลังคา Solar Roof ที่สามารถเปลี่ยนแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าให้กับตัวสถานีและรองรับการเก็บพลังงานสำรองสำหรับฟังก์ชันสลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping) ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้อีกด้วย
โครงการดังกล่าวยังได้ฮ้อป (HAUP) ที่พัฒนาแอพพลิเคชันออกมารองรับการใช้งาน โดยนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยฯทุกคนสามารถแบ่งปันหรือแชร์การใช้รถเพียงใช้สมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่อ โดยเอ.พี. ฮอนด้า และ มจธ. มีแผนติดตั้ง PCX Electric Smart Station อย่างน้อย 3 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่ภายในวิทยาเขตหลักของ มจธ. จำนวนสองแห่ง และที่อาคาร KX หรือ KMUTT Knowledge Exchange for Innovation Center ถนนกรุงธนบุรีอีกหนึ่งแห่ง
รศ.ดร. ยศพงษ์ ลออนวล หัวหน้าโครงการ กล่าวว่า PCX Electric Smart Station ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อศึกษาการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า PCX Electric ในรูปแบบของการบริการแบบแบ่งปัน (Sharing Service) ตัวสถานีจะถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย มีความทนทานต่อสภาวะอากาศกลางแจ้ง ตัวหลังคาสามารถรองรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในการชาร์จรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งชาร์จตัวแบตเตอรี่ในระบบสลับแบตเตอรี่ (Swapping Charger System) โดยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้งานในสถานีจะส่งกลับไปยังระบบไฟฟ้าของภายในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ระบบสลับแบตเตอรี่จะมีการติดตั้งในระยะต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาระบบการแสดงผลและการเก็บข้อมูลแบบทันที (Real Time Data) ใน 3 ด้าน ได้แก่ การใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า การใช้และการผลิตพลังงาน และระบบรักษาความปลอดภัยภายในสถานี
“โครงการนี้เป็นความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการใช้พลังงานหมุนเวียนและการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการเดินทางอย่างยั่งยืน (Sustainable Mobility) ต่อไป “
รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า การพัฒนาในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ KMUTT: Sustainable University for Sustainable Development Goals (SDGs) 2030 ของ มจธ. เพื่อยกระดับการพัฒนาการเดินทางที่ปลอดมลพิษ และจะเป็นต้นแบบที่ดีสู่การพัฒนาต่อไปเพื่อชุมชน และประเทศไทย