เชฟโรเลต เอาใจลูกค้าขาซิ่งด้วยการจับปิกอัพโคโลราโด ตกแต่งพิเศษในรุ่นลิมิเตด RS ผลิตเพียง 200 คัน เพิ่มราคา 1 หมื่นบาท
นายชอน พอพพิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม ณ อิมแพค ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี บริษัทเตรียมไฮไลท์ด้วยการเปิดตัวปิกอัพโคโลราโด อาร์เอส ซึ่งเป็นรถรุ่นตกแต่งพิเศษ มีให้เลือกทั้งรุ่นเอ็กซ์-แคป และซี-แคป แอลที และ มีจำนวนจำกัดเพียง 200 คัน
สำหรับรถรุ่นตกแต่งพิเศษ มาพร้อมดีไซน์ดุดัน สีภายนอกทูโทน พ่นสีดำบนหลังคา ฝากระโปรงหน้า ฝากระบะท้าย กระจกมองข้าง กระจังหน้า และติดตราสัญลักษณ์เชฟโรเลตสีดำโดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ แดง ส้ม น้ำเงิน และขาว นอกจากนี้ยังมีครอบกันชนหน้าสีดำ ตราสัญลักษณ์รุ่น RS สีแดง พร้อมแผ่นติดท้ายกระบะให้ลูกค้าได้เลือกแต่งได้ตามสไตล์ตนเอง
ขุมพลังเครื่องยนต์ ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบ (FGT) และอินเตอร์คูลเลอร์คูลเลอร์ ความจุ 2,499 ซีซี ผ่านมาตรฐานมลพิษไอเสียยูโร 4 กำลัง 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 380 นิวตันเมตร (38.75 กก.-ม.) ที่ 2,000 รอบต่อนาที
โคโรลาโด อาร์เอส มีราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้น 10,000 บาท จากราคาจำหน่ายของรุ่นเอ็กซ์-แคป และซี-แคป แอลที ราคาจำหน่าย 665,000 บาท (อาร์เอส เอ็กซ์-แคป) และ 789,000 บาท (อาร์เอส ซี-แคป)
นายชอน กล่าวเพิ่มเติมว่า โคโลราโด อาร์เอส ผลิตขึ้นที่ศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง โดยเชฟโรเลตพัฒนารถรุ่นพิเศษนี้เพื่อตอบสนองความต้องการและความนิยมในการตกแต่งรถปิกอัพ อาทิ การติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์ประดับยนต์ในประเทศไทย
“การแสดงออกถึงตัวตนคือสิ่งสำคัญในวัฒนธรรมรถปิกอัพทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา โคโลราโด อาร์เอส ผลิตขึ้นเพื่อลูกค้าที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นรถรุ่นพิเศษที่ลูกค้าสามารถตกแต่งได้ตามสไตล์ที่ตนเองชื่นชอบและยังคงเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต โคโรลาโด อาร์เอส สะท้อนความโดดเด่นแบบอเมริกันที่ทำให้เชฟโรเลตครองความนิยมในใจลูกค้าทั่วโลกจากรุ่นสู่รุ่น โดยอาร์เอส (RS) มาจากคำว่า “Rally Sport” ซึ่งแสดงถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของ เชฟโรเลตในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตและการแข่งขันรถปิกอัพ เชฟโรเลตใช้สัญลักษณ์อาร์เอส ครั้งแรกในรถเชฟโรเลต คามาโรในช่วงทศวรรษ 1960 และใช้กับรถอีกหลายรุ่นที่มีรูปลักษณ์สปอร์ตหรือรุ่นที่ผลิตขึ้นมาเป็นรุ่นพิเศษ”