"มิตซูบิชิ"ปูทางปลั๊ก-อินไฮบริด

08 พ.ย. 2562 | 03:05 น.

 

มิตซูบิชิ เดินหน้าสื่อสารตลาดยานยนต์ไฟฟ้า หลังได้อนุมัติการลงทุนจากภาครัฐแม้จะยังไม่ได้เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดประเทศไทย ในตอนนี้ แต่ค่ายมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊ก-อินไฮบริดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีแผนงานสื่อ สารการตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นปูทางไปที่มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าในหลายประเทศ และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  จำหน่ายไปแล้วมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 2 แสนคันเมื่อสิ้นสุดปี 2561

"มิตซูบิชิ"ปูทางปลั๊ก-อินไฮบริด

"มิตซูบิชิ"ปูทางปลั๊ก-อินไฮบริด

ในส่วนของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกประเทศญี่ปุ่น โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีแผนจะทำตลาดรถยนต์อีวีและพีเอชอีวี ซึ่งคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวมในภูมิภาคนี้ 1.2 ล้านคันภายในปี 2579 โดยผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ ได้รับการพิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุน เพื่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊ก-อินไฮบริดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562

สำหรับมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จะใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ไฟฟ้าอย่างหลากหลาย ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยี V2X (Vehicle to Everything) ที่ใช้เป็นแหล่งจ่ายพลังงานได้สำหรับทุกสิ่งรวมทั้งใช้เป็นแหล่งจ่ายพลังงานสำหรับครัวเรือนหรือที่เรียกว่าเทคโนโลยี V2H (Vehicle to Home) โดยรถยนต์อีวีหรือพีเอชอีวีจะทำการชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้และทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับครัวเรือนได้เมื่อจอดพักพร้อมด้วยเทคโนโลยี V2G (Vehicle to Grid) ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายไฟฟ้าโดยการเก็บสะสมและจ่ายกระแสไฟฟ้าจากรถยนต์อีวีหรือพีเอชอีวีจำนวนมากซึ่งจะสร้างเสถียรภาพให้กับโครงข่ายไฟฟ้าเมื่อเกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานต่อพลังงานไฟฟ้า

เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยให้มีไฟฟ้าใช้ในสถาน การณ์ฉุกเฉินและในกรณีเกิดภัยทางธรรมชาติ โดยรถยนต์อเนก ประสงค์แบบพีเอชอีวีของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าเคลื่อนที่ให้กับแหล่งชุมชน ซึ่งสิ่งที่ได้พัฒนาขึ้นมานี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่าการขับขี่ 

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,520 วันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562