รายงานจากฟอร์ด ประเทศจีนว่า นับตั้งแต่ปี 2551 ฟอร์ดได้ขยายห้องทดสอบกลิ่นประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ที่นานจิง ประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีทีม “สุดยอดนักดมกลิ่น” ถึง 18 คน ที่ร่วมทำการทดสอบกลิ่นกว่า 300 กลิ่นต่อปี จากวัสดุ และส่วนประกอบต่างๆ ภายในรถยนต์ที่จำหน่ายในเอเชีย แปซิฟิค
แอนดี้ แพน วิศวกรผู้ดูแลห้องทดสอบกลิ่นของฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า กลิ่นคืออีกหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดเมื่อลูกค้าเลือกซื้อรถใหม่ ดังนั้นฟอร์ดต้องทดสอบทุกส่วนประกอบที่อยู่ในรถ เพื่อให้แน่ใจว่าลักษณะ สัมผัส และกลิ่นนั้นเหมาะสม เพราะทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้แก่คนขับและผู้โดยสาร
“กลิ่นคือสัมผัสที่ทรงพลังและรับรู้ได้รวดเร็วที่สุดในประสาทสัมผัสทั้งห้า และยังเป็นสัมผัสที่เชื่อมโยงกับความทรงจำและความรู้สึกมากที่สุด กลิ่นส่งผลต่อความรู้สึกในแต่ละวันของเราถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และยังมีอิทธิพลต่ออารมณ์ ความสุข และความพึงพอใจ นอกจากนี้ กลิ่นยังสามารถสร้างความสัมพันธ์อันยืนยาวระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้อีกด้วย”
อย่างวงการน้ำหอมล้วนเติบโตขึ้นด้วยความสัมพันธ์ที่ว่านี้ โดยกลิ่นหอมได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อปลุกเร้าความรู้สึกต่างๆ ตั้งแต่ความปรารถนา ความมีชีวิตชีวา ไปจนถึงความผ่อนคลาย คล้ายกับเวลาที่เรารู้สึกดึงดูดให้เดินเข้าหาซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านกาแฟด้วยกลิ่นหอมของขนมปังหรือกาแฟคั่วสดใหม่นั่นเอง
ปัจจุบันนักออกแบบรถยนต์เริ่มมีการแข่งขันกันมากขึ้น ในเรื่องการนำเสนอกลิ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของรถยนต์ให้กับตลาดต่างๆ ซึ่งทุกๆ ปี ฟอร์ดจะทำการคัดเลือกทีมสุดยอดนักดมกลิ่นในประเทศจีน โดยเปิดรับพนักงานที่สนใจจากทุกฝ่ายในบริษัท เพื่อเข้าทดสอบกลิ่นจากตัวอย่างวัสดุในขวดโหล 16 ขวด ทั้งนี้สุดยอดนักดมกลิ่นจะได้รับการคัดเลือกจากความสามารถและความคงเส้นคงวาในการดมกลิ่น และยังต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ครบถ้วนอีกด้วย