เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 500 อี เอสยูวีที่ท้าท้ายปั๊มน้ำมัน

30 เม.ย. 2560 | 03:00 น.
ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูมี “ไอ เพอร์ฟอร์แมนซ์” (i-Performance) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ปั้นรถยนต์ในตระกูล “อีคิว” (EQ) เพื่อสื่อสารถึงทิศทางที่จะมุ่งไปในอนาคตกับยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันยังขายแพร่หลายในระดับของ “ปลั๊ก-อินไฮบริด” ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า

mp-37-3256-3 ภายใต้วิสัยทัศน์มุ่งสู่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ทว่าการปูทางสื่อสารแบรนด์ EQ (Electric Intelligence by Mercedes-Benz) จึงต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ เหมารวมพวกรถปลั๊ก-อินไฮบริดที่ขายในเมืองไทย ปัจจุบันมี 3 รุ่น คือ “ซี-คลาส” C350e “เอส-คลาส” S500e รวมถึงเอสยูวี GLE500e และในเดือนพฤษภาคมนี้ยังเตรียมเปิดตัว “อี-คลาส” E350e เพิ่มอีก 1 รุ่น

ทั้งหมดเป็นการขึ้นไลน์ประกอบในประเทศครับ ซึ่งราคาทำได้น่าสนใจจากการสนับสนุนของรัฐบาลที่ให้ประโยชน์กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยรสูง ปล่อยไอเสียต่ำ และต้องใช้ไทยเป็นฐานการผลิต

mp-37-3256-4 สำหรับจีแอลอีที่ผมได้ลองขับล่าสุดคือ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic ราคา 4.99 ล้านบาท แพงกว่ารุ่น Exclusive อยู่ 5 แสนบาท

โดยสิ่งที่ได้รับเพิ่มเติมต่างกันคือ ชุดแต่ง AMG ทั้ง กันชนหน้า-หลัง ล้ออัลลอยสีเทาลายขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เบาะหุ้มหนัง nappa

mp-37-3256-5 ตลอดจนชุดเครื่องเสียง Harman Kardon รองรับ DVD 6 แผ่น และฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apply CarPlayTM) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง และระบบกุญแจคีย์เลส

สำหรับ “จีแอลอี ปลั๊กอิน ไฮบริด” GLE500e รุ่นประกอบในประเทศเปิดตัวช่วงเดือนสิงหาคมตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งค่าตัวถูกลงกว่ารุ่นนำเข้า 250d เครื่องยนต์ดีเซล 2-3 แสนบาท ด้วยโชคสองเด้งคือไม่เสียภาษีนำเข้าและรับภาษีสรรพสามิตในอัตรา 10% สำหรับรถยนต์ไฮบริดที่ปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัม/กม. แต่กระนั้นหากทียบกับ X5 xDrive40e M Sport รุ่นประกอบในประเทศราคายังถูกกว่าที่ 4.699 ล้านบาท(ลดมาจากรุ่นนำเข้า 7 แสนบาท)

…ถึงวันนี้ใครมาก่อนมาหลังไม่สำคัญแล้วครับ ต้องสู้กันที่ราคา ออปชัน สมรรถนะล้วน ๆ

สำหรับ GLE500e ตัวรถยาวประมาณ 4.8 เมตร ใหญ่โตหรูหรา แต่ด้วยระบบ Dynamic Select Controller สามารถปรับบุคลิกของ เครื่องยนต์ เกียร์ พวงมาลัย เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4Matic ให้สอดคล้องกับสภาพถนนและการใช้งาน ขับจริงไม่อุ้ยอ้ายเทอะทะ ด้วยระบบช่วยเหลือที่บอกไป แถมตัวรถสูงส่งให้ตำแหน่งนั่งมองชัดเจน คาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าได้ไกล ส่วนระบบปลั๊ก-อินไฮบริด หากชาร์จไฟมาเต็มที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคลมว่ารถจะวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆได้ระยะทาง 30 กม.ขึ้นอยู่กับสภาะแวดล้อมและลักษณะการขับขี่

mp-37-3256-6 กรณีผมขับ GLE500e ออกมาจากตึกแถวสาธร ผ่านสภาพการจราจรหนาแน่น ในสภาวะนี้เครื่องยนต์ไม่ทำงานครับ รถเงียบ นิ่ง หรือกดคันเร่งแบบเนียนๆก็ไล่ความเร็วจากพลังมอเตอร์ไฟฟ้าได้ถึง 90-100 กม./ชม.สบายๆ(โดยเครื่องยนต์ไม่ติด)

จากนั้น เมื่อผมขับขึ้นทางด่วนสามารถใช้ความเร็วได้เพิ่มขึ้น เครื่องยนต์จึงเข้ามาเสริมการทำงานหลายจังหวะ และสุดท้ายถึงที่หมายด้วยระยะทางรวม 17 กม. ซึ่งการประมวลผลการขับของทริปนี้ระบุว่า ผมใช้พลังงานไฟฟ้าวิ่งไปในระยะทางถึง 14 กม. (และยังเหลือระยะทางที่วิ่งได้จากปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เหลือในแบตเตอรีอีก 9 กม.) พร้อมแสดงอัตราบริโภคน้ำมัน 3.7 ลิตรต่อ 100 กม. หรือ 27 กม./ลิตร

ดังนั้นการขับขี่ในเมืองกับรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดถือว่าเหมาะสม ตอบโจทย์เรื่องประหยัดน้ำมัน ยิ่งมีจุดชาร์จไฟเป็นเรื่องเป็นราว โดยใช้เวลา 3-4 ชม.ชาร์จทิ้งไว้แล้วไปทำธุระ เมื่อกลับออกมารถก็พร้อมวิ่งด้วยพลังงงานไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง

mp-37-3256-2 อย่างไรก็ตาม คงต้องทำใจหากขับเลยจุดนี้ไป(ออกนอกเมือง หรือกรณีกระแสไฟในแบตเตอรี่มีปริมาณต่ำกว่า 20%) เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 333 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร คงต้องทำงานหนักหน่อยในการผลักดันเอสยูวีคันโต ซึ่งตัวเลขซดน้ำมันคงกลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงอีกครั้ง

อีกหนึ่งข้อสังเกตคือการวางแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ขนาดความจุ 8.7 กิโลวัตต์ น้ำหนักประมาณ 114 กิโลกรัม ไว้ที่ใต้เพลาขับด้านหลัง ประเด็นนี้กินพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังไปเล็กน้อย ซึ่งผมว่าส่วนหนึ่งเพราะ “จีแอลอี” คือ “เอ็ม-คลาส ไมเนอร์เชนจ์” อาจจะไม่ได้ออกแบบการเป็นเอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริดตั้งแต่ต้น การวางแบตเตอรีจึงดูประดักประเดิด หรือเมื่อเทียบกับเอสยูวีจากสวีเดนที่เกิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะอย่างวอลโว่ “เอ็กซ์ซี-90” ที่วางตามยาวใต้พื้นห้องโดยสาร

รวบรัดตัดความ...เอสยูวีคันโตเพื่อคนครอบครัว ไม่มีข้อสงสัยเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ทั้งพละกำลัง การทรงตัวยอดเยี่ยม พร้อมเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามการใช้งาน ขณะดียวกันหากวางแผนการขับดีๆช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าจากการเติมน้ำมันได้มาก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560