ประชัน 3 ปิกอัพพันธุ์โหด

วัฒนธรรมการใช้ปิกอัพของคนไทยนั้น แตกต่างแบบหาตัวจับในได้ยากในโลกใบนี้ ทั้งใช้เพื่อการพาณิชย์ เป็นพาหนะรับส่งในชีวิตประจำวัน ตอบสนองการเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดพักผ่อน หรือบุกตะลุยสไตล์ออฟโรด ไปจนถึงแต่งซิ่งวิ่งเท่แบบออนโรด

หากบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไม่ทำตัวแต่งออกมาขาย ชาวบ้านก็นำไปโมดิฟายด์ สรรหาของแต่งมาเล่นเองอยู่ดี สอดคล้องกับช่วงนี้ ที่ 3 ค่ายปิกอัพรายใหญ่ อีซูซุ นิสสัน เชฟโรเลต เปิดตัวปิกอัพรุ่นพิเศษออกมากระตุ้นตลาดและสร้างความสดใหม่ ซึ่งแต่ละคันทำออกมาได้หล่อเข้ม เต็มพลัง ในสไตล์ของตัวเอง

อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นลิมิเต็ต

เริ่มจากพี่ใหญ่ในวงการ อีซูซุ จัดการเปิดตัวดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นลิมิเต็ต โดยสื่อสารออกมาในช่วงเวลาเดียวกับเอสยูวี มิวเอ็กซ์ ไมเนอร์เชนจ์ สำหรับปิกอัพขับเคลื่อนสองล้อยกสูงรุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัด มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน และชุดแต่งกระบะท้าย Robust Extender ที่ออกแบบพิเศษพร้อมเบดไลเนอร์ โดดเด่นด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อม Silver Ring เพิ่มคิ้วขอบฝากระโปรงหน้า ขณะที่กระจังหน้าโทนเทา กันชนสีทูโทน กระจกมองข้างสีโครเมี่ยม ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษขนาด 18 นิ้ว และบันไดข้างสีเทาดำ

เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สำหรับดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นลิมิเต็ต มีเฉพาะตัวถัง 4 ประตู แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ราคา 8.9 แสนบาท – 1.005 ล้านบาท
เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม
ค่ายรถอเมริกันบอกว่า พัฒนาการออกแบบโคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม ขึ้นมาใหม่เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ เน้นย้ำภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสีดำเน้นความดุดัน ด้วยชุดแต่งสตอร์มสีดำล้วน ทั้ง สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว มือจับเปิดประตู มือจับเปิดฝาท้าย เส้นขอบหน้าต่าง กันชนท้ายพร้อมเซ็นเซอร์ถอยหลัง รวมถึงสติกเกอร์สีดำบนฝากระโปรงหน้าพร้อมโลโก้ High Country สติกเกอร์ STORM ตกแต่งด้านข้างตัวรถลายสปอร์ต และกระจกมองข้าง

เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม ยังติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายมาเพียบ ทั้ง ฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท ระบบกุญแจอิเลกทรอนิก(สั่งให้เครื่องยนต์เริ่มทำงานได้จากภายนอก) ระบบช่วยเหลือการจอดด้านหน้าและกล้องมองหลังช่วยให้การขับขี่ในที่คับแคบมีความสะดวกง่ายดายมากขึ้น เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำฝน ไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติ พร้อมมายลิงค์ อินโฟเทนเมนท์ การเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และสิริอายส์ฟรี ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ราคา 1.028 ล้านบาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 1.098 ล้านบาท
นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน นาวารา เจเนอเรชันที่ 3

เปิดตัวครั้งแรกในปี พศ. 2557 โดยนิสสันใช้ไทยเป็นฐานผลิตและส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นรถยนต์นิสสันที่ขายดีที่สุดในไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และ ออสเตรเลีย ล่าสุดเติมความเข้มแข็ง ดุดัน ด้วยรุ่น “แบล็ค อิดิชัน” ที่เสริมชุดแต่งรอบคัน ดำเข้มทั้งไฟหน้า กระจังหน้า กรอบไฟตัด กระจกมองข้าง มือจับประตู บันไดข้าง กันชนหลังสีดำ และเสาอากาศแบบ Shark Fin สีดำ (เฉพาะรุ่น Double Cab) ด้านข้างเด่นด้วยลวดลายกราฟิตี้ดีไซน์สีดำพร้อมสัญลักษณ์ Black Edition ล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อสีดำขนาดใหญ่

ขณะที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ติดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในนาวารา แบลค อิดิชัน ทุกรุ่น มีให้เลือกทั้งแบบคิงแค็บ และ ดับเบิ้ลแค็บพร้อม 4 สี ได้แก่ สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด, สีส้ม สะวันนา ออเรนจ์, สีขาวไวท์ เพิร์ล (เพิ่มราคาอีก 6,542 บาท) และสีดำ แบล็ค ในรุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ อี เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 7.86 แสนบาท และรุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ อี เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 8.595 แสนบาท ส่วนดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ อีแอล เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ราคา 9.18 แสนบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,253 วันที่ 16 - 19 เมษายน พ.ศ. 2560