อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ไมเนอร์เชนจ์ หรูไปให้สุด

กลุ่มตรีเพชรอีซูซุเซลส์ฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจครบ 60 ปีในประเทศไทยจัดการเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นได้แก่ “มิว-เอ็กซ์ ไมเนอร์เชนจ์” และ“ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นพิเศษ” ซึ่งหลังเปิดตัวต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเชิญสื่อมวลชนกว่า 30 ชีวิตไปร่วมสัมผัสสมรรถนะของ“มิว-เอ็กซ์ ไมเนอร์เชนจ์”ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอบลูพาวเวอร์ ถึงจังหวัดเชียงราย

สำหรับ“มิว-เอ็กซ์ ไมเนอร์เชนจ์”ที่ “ฐานฯยานยนต์” ได้สัมผัสเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 3.0Ddi ขณะที่รูปร่างหน้าตาดูรวมๆแล้วยังมีเสน่ห์เหมือนเดิม แต่ปรับกระจังหน้าใหม่แบบสปอร์ตทรีดี ส่วนไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ ไบ-แอลอีดีที่สามารถปรับระดับสูง – ต่ำได้อัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไลท์ส่องสว่างอยู่ในโคมเดียวกัน ตลอดจนกันชนหน้า – กันชนหลัง และไฟท้ายแอลอีดี และที่ขาดไม่ได้คือ สัญลักษณ์ 60 ปีแปะอยู่ด้านหลัง

หลังจากสำรวจรูปลักษณ์หน้าตากันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็เริ่มออกเดินทาง โดยจุดแรกที่เริ่มสตาร์ทกัน คืออ.เมืองเชียงราย และมีจุดหมายปลายทางคือ “หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ” ที่ตั้งอยู่อ.เชียงแสน ระหว่างการเดินทางในครั้งนี้ มีทั้งสภาพถนนที่เป็นทางราบ และทางขึ้น – ลง เขา แม้ถนนจะขรุขระบ้าง หรือเจอทางโค้งบ้าง แต่โดยรวมการรับรู้ของผู้โดยสารยังรู้สึกว่านั่งสบายและให้ความมั่นใจสูง

โดยตัวรถไม่ได้ออกอาการโคลงเคลง ตรงจุดนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับช่วงล่างหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงพร้อมโช้กอัพแก๊ส และช่วงหลังหลังแบบ5จุดยึดและเหล็กกันโคลงพร้อมโช้กอัพแก๊ส รวมไปถึงระบบต่างๆที่ใส่เข้ามา อาทิ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ที่ช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้น

จุดเด่นอีกประการของรถรุ่นใหม่คือ ภายในห้องโดยสาร กว้างขวาง และมีสีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำเข้ม เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut เสริมความหรูหรากันด้วยลายไม้ Fine Walnut ที่แผงข้างประตู หัวเกียร์ และคอนโซลหน้า โดยเบาะนั่งของผู้ขับขี่สามารถปรับได้ด้วยไฟฟ้า 6 ระดับ ส่วนที่นั่งแถวสองนั้นสามารถพับเก็บได้ 60:40 และที่นั่งแถว 3 สามารถพับเก็บได้ 50:50 ใครที่อยากจะขนสัมภาระต่างๆก็มีพื้นที่จุได้อย่างเต็มที่

ส่วนออพชั่น–ความบันเทิงต่างๆครบครัน อาทิ แผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ อ่านข้อมูลได้ง่าย หน้าจอแสดงผลการขับขี่ และแอบเพิ่มความสปอร์ตเล็กน้อยด้วยขอบโครเมียม ,ระบบ iConnectที่มาพร้อม Built-in Navigator มีหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟนของเราได้ และยังมีช่องรองรับยูเอสบีทั้งด้านหน้าและด้านหลังของห้องโดยสาร และยังมีจอขนาด 10.5 นิ้วที่ติดมากับเพดานสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เรียกว่าครบครัน

นอกเหนือจากรับรู้สมรรถนะของรถรุ่นใหม่แล้ว การเดินทางในครั้งนี้ยังได้สัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายไม่ว่าจะเป็นหอฝิ่น ที่มีการจัดแสดงจุดกำเนิดของฝิ่น และการเข้ามายังประเทศไทย การให้ข้อมูลของฝิ่นที่มีคุณและมีโทษต่อประเทศต่างๆรวมไปถึงโชว์ให้เห็นถึงจุดจบของผู้เสพ ผู้ค้า ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครแวะมาสามเหลี่ยมทองคำควรจะแวะมาสัมผัสให้ได้

สถานที่ท่องเที่ยวต่อมาคือ “ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน” ที่ตั้งอยู่อ.แม่สาย ถือเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่สร้างขึ้นเพื่อวิจัยและพัฒนาผลผลิตจากเมล็ดชา

ปิดท้ายการเดินทางด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ที่รวบรวมศิลปะจากฝีมือของอาจาร์ย ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติในสาขาทัศนศิลป์ ที่มีผลงานที่โดดเด่น และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยพิพิธภัณฑ์บ้านดำตั้งอยู่บนเนื้องที่กว่า 100 ไร่ และมีกลุ่มบ้านตามศิลปะต่างๆกว่า 40 หลัง

เรียกว่าครบรสชาติสำหรับทริปนี้ เพราะได้สัมผัสทั้งสมรรนะของอีซูซุ มิว-เอ็กซ์รุ่นใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ ที่สวยหรู ดูแพง และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงราย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเที่ยวตามรอยได้ไม่ยากเย็น ส่วนคนที่อยากเป็นเจ้าของรถ สามารถแวะชมและทดลองขับได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการอีซูซุทั่วประเทศ กับราคาค่าตัว1.099 – 1.486 ล้านบาท!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,249 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2560