‘มาเซราติ’ สบช่องรถหรู 7-8 ล้าน หวังโต 100%

17 มี.ค. 2560 | 09:30 น.
เปิดใจ “ปิยะเทพ ศิวากาศ” แม่ทัพใหญ่“ดีไซน์ มอเตอร์เวิร์ค” ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซราติรายใหม่ ถึงโอกาสในตลาดรถหรู และเป้าหมายในธุรกิจ

กลยุทธ์มาเซราติ

ที่ผ่านมา ธุรกิจรถยนต์“มาเซราติ” เงียบไปพอสมควร ซึ่งการเข้ามาดูแลตลาดของเราจึงต้องเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ เพิ่มการรับรู้ให้ลูกค้า หรือให้เข้ามาสัมผัสรถยนต์ผ่านโชว์รูม 2 แห่งคือ สยามพารากอน และสุขุมวิท 26(โชว์รูม-ศูนย์บริการ) นอกจากนี้ บริษัทแม่ยังเพิ่มโปรดักต์ใหม่ ขยายเซกเมนต์เพิ่มเติมอย่าง กิบลี และเลแวนเต้ ซึ่งเป็นรถที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่าเดิมจึงถือเป็นโอกาสดีของเรา

“ก่อนปี 2014 มาเซราติมีรถยนต์เพียง 3 รุ่น แต่กลังจากการเข้ามาของ กิบลี และเลแวนเต้ จะทำให้เราขยายตลาดได้มากขึ้น ด้วยราคาไม่ถึง 10 ล้านบาท”

กลุ่มลูกค้ามาเซราติ

ก่อนอื่นเรามองตำแหน่งสินค้าว่าจะวางให้อยู่ตรงไหนของตลาด และพบว่ารถยนต์ราคา 7-8 ล้านบาทยังมีโอกาส จากการสำรวจพบว่ารถหรูราคาประมาณ 7 ล้านบาทอย่างซีรีส์7 เอส-คลาส หรือกลุ่มดรีมคาร์ของเมอร์เซเดสเบนซ์ ตลาดนี้มียอดขายประมาณ 1,500 คันต่อปี และไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลงอย่างไร ยอดขายจะอยู่ประมาณนี้ หรือตัวเลขค่อยๆขยับเพิ่มปีละนิดด้วยซ้ำ

“ส่วนหนึ่งเราหวังให้ลูกค้ารถหรูขยับมาหามาเซราติ ด้วยคุณค่าของแบรนด์ และความแตกต่าง พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งการขยับจากรถยนต์หรูกลุ่มเดิมๆ มาสู่ราคา 7-8 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องยาก”

แผนขยายโชว์รูม

ปัจจุบันยืนยันที่ 2 แห่ง และยังไม่มีแผนขยับขยายไปพร้อมกับกลุ่ม “เอ็มจีซี-เอเชีย” ที่มีศูนย์ออโต้เพลกซ์ตามหัวเมืองใหญ่ เนื่องจากการสำรวจลูกค้าเก่า พบว่ามีจำนวนกว่า 200 คัน เช่นเดียวกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายยังอยู่ในกรุงเทพเป็นส่วนมาก ซึ่งโชว์รูมที่สยามพารากอน และสุขุมวิท 26 สามารถรองรับได้ -เป้าหมายยอดขาย

สำหรับเลแวนเต้ปีนี้ได้โควต้ามา 20 คันน่าจะขายหมด ซึ่งสัดส่วนขายรถยนต์รุ่นนี้จะเป็นครึ่งหนึ่งของมาเซราติทั้งหมด โดยปีแรกเราหวังเติบโตเป็น 100% จากปีที่แล้ว(ผู้จำหน่ายรายเดิม)

ดีเซลหรือเบนซิน

ตลาดของกิบลีเดิม 80% เป็นของเครื่องยนต์เบนซิน แต่ปัจจุบันเราจะเข้ามาเน้นเครื่องยนต์ดีเซลมากขึ้น ด้วยสมรรถนะและอัตราบริโภคน้ำมันที่ประหยัด กว่า ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องสื่อสารถึงข้อดีให้ตลาดรับรู้ว่า เครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบันยอดเยี่ยมขนาดไหน

ขณะเดียวกันเลแวนเต้กำลังเป็นรถยนต์ที่ขายดีทั่วโลก จึงมีข้อจำกัดเรื่องกำลังผลิตอย่างรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน พวงมาลัยขวา โรงงานที่อิตาลียังไม่เริ่มผลิต เบื้องต้นเมืองไทยจึงมีแต่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลทำตลาด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,244 วันที่ 16 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2560