ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิค โชว์สถิติปี 2016 ยอดส่งมอบ 5,589 คัน

25 ม.ค. 2560 | 06:20 น.
มาร์ติน ลิมเพิร์ท กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิค กล่าวว่า อีกครั้งกับผลงานความสำเร็จของปอร์เช่ด้วยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ใหม่ในภูมิภาค เอเซีย แปซิฟิค ตลอดปีที่ผ่านมาถึง 5,589 คัน ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมในปี 2015 ประเทศไต้หวัน สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ยังคงเป็นตลาดที่มีความสำคัญและเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ ในขณะที่ไทยและฟิลิปปินส์เป็นอีกสองประเทศที่น่าจับตามองจากทิศทางที่มีแนวโน้มพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกัน

ตัวเลขยอดจำหน่ายรวม 590 คัน ของรถสปอร์ตรุ่น 911 ในปีที่แล้ว ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงศักยภาพและความโดดเด่นที่ยังคงแข็งแกร่งไม่เสื่อมคลายของยนตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ สำหรับปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) ยังคงเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 2,626 คัน เช่นเดียวกับ คาเยนน์ (Cayenne) ที่ตามมาติดๆ จากยอดส่งมอบ 1,819 คัน ในส่วนของ 718 บ๊อกซเตอร์ (718 Boxster) และ 718 เคย์แมน (718 Cayman) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ สร้างผลงานได้ที่ 356 คัน และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับสปอร์ตซาลูน พานาเมร่า (Panamera) ที่ถึงแม้จะมีทายาทผู้สืบทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมและความหรูหราสะดวกสบายออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม กลับสามารถปิดท้ายเจเนอเรชั่นแรกของตนเอง ด้วยยอดจำหน่ายในปีที่ผ่านมาถึง 198 คัน

“ด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของปอร์เช่ทุกรุ่นสามารถตอบโจทย์ของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เราสามารถสร้างสถิติอันยอดเยี่ยมสำหรับภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิค ได้ต่อเนื่องอีกครั้ง ในปีที่แล้วเรามีทิศทางการพัฒนาที่เป็นบวกทั้งในด้านความแข็งแกร่งของแบรนด์และยอดจำหน่าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เป้าหมายหลักในการดำเนินงานของเรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สุนทรียภาพและส่งมอบประสบการณ์การขับขี่อันสนุกสนานเร้าใจให้แก่ลูกค้าปอร์เช่ทุกท่านเช่นเดิม ปอร์เช่ คือบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแนวหน้าของโลกที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ไม่เพียงในแง่ของตัวเลขยอดขาย แต่ยังรวม ไปถึงการเพิ่มขนาดขององค์กรและจำนวนบุคลากรที่ทำงานให้กับเราอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมและอัจฉริยภาพทางเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยไม่หยุดยั้งจากแผนกลยุทธ์ระยะยาวจนถึงปี 2025 ของเรา กำหนดทิศทางการดำเนินงานในอนาคตอย่างแน่วแน่ สร้างความเข้าใจอันถ่องแท้ในวิศวกรรมยานยนต์ของวันข้างหน้า ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบดิจิตอลและการติดต่อสื่อสารในรถยนต์” กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิค กล่าว