เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลซี เท่ดีแต่ต้องแลกความสบาย

29 ม.ค. 2560 | 05:45 น.
การเฟสลิฟต์ของ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค” (Mercedes-Benz SLK) เจเนอเรชันที่3 เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เราเห็นนโยบายเปลี่ยนชื่อโปรดักต์ในการทำตลาดของเจ้าพ่อรถหรูรายนี้ชัดเจนมากขึ้น

หลังจากกลุ่มเอสยูวีจัดเรียงชื่อเป็น จีแอลเอ จีแอลซี (เดิมชื่อ “จีแอลเค”) จีแอลอี (เดิมเป็น “เอ็ม-คลาส”) และ จีแอลเอส (เดิม “จีแอล”) ให้สอดคล้องกับตำแหน่งการทำตลาดของ เอ,ซี,อี,เอส-คลาส ขณะที่โรดสเตอร์ “เอสแอลเค” ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “เอสแอลซี” แถมได้โอกาสเปลี่ยนรหัสตัวถังจาก R172 เป็น R173

MP37-3230-c สำหรับ “เอสแอล” (SL) มาจากคำว่า สปอร์ตไลต์ (Sport Light) หรือรถสปอร์ตน้ำหนักเบา ส่วน “ซี” (C) แสดงถึงชั้นคลาสตามที่กล่าวมาด้านบน ซึ่งการทำตลาดในไทยมากับรุ่น SLC 300 AMG Dynamic ราคา 3.99 ล้านบาท และตัวแรง Mercedes-AMG SLC 43 ราคา 4.99 ล้านบาท

ผมนำ SLC 300 AMG Dynamic มาลองขับครับ เห็นการเปลี่ยนแปลงกับกระจังหน้า ชายกันชนด้านล่างที่ออกแบบใหม่ และปรับรายละเอียดในโคมไฟหน้าและหลัง พร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้ว ส่วนภายในปรับเปลี่ยนวัสดุและลวดลายการตกแต่งเล็กน้อย ตรงหัวเกียร์มีอักษร SLC (กลัวว่าเข้ามานั่งแล้วไม่รู้ว่าเป็น SLK หรือ SLC) พร้อมจัดสรรพื้นที่พอดีตัว วางสองที่นั่งคู่กับเบาะหนัง Nappa ที่ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด ไฟ Ambient Lighting มีให้เลือก 3 สี และระบบเครื่องเสียงเล่นวิทยุ-ซีดี MB Audio 20 เชื่อมต่อบลูทูธ รองรับระบบนำทาง

MP37-3230-d ส่วนท่านั่งไม่ถึงกับอึดอัด แต่ต้องยอมรับกับความเตี้ยของเบาะและพื้นห้องโดยสารที่ส่งผลให้มุมมองด้านหน้าจำกัด เช่นเดียวกับการเข้า-ออกลำบาก(เมื่อปิดหลังคา) “เอสแอลซี” เป็นโรดสเตอร์หลังคาแข็งกางออก-พับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า เมื่อขับตอนปิดหลังคาภายในห้องโดยสารเงียบดี เก็บงานเนี้ยบทุกรอยต่อ ส่วนจังหวะที่อยากเท่เปิดหลังคาแล้วยกกระจกข้างขึ้นมา ลมก็ไม่เข้ามาปะทะหนังหน้าให้เสียผิว (แต่แดดจัดการพี่ไปเรียบร้อยแล้วละ) ต้องชื่นชมเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่วางเทคนิคจัดการทางของลมปะทะหรือการไหลของอากาศด้านข้างตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

…จริงอยู่ที่อาจจะหาโอกาสเปิดหลังคาลำบาก แต่ถ้ามีเวลาและสถานที่อำนวย การเปิดหลังคาขับน่าจะช่วยให้ชีวิตคุณสุนทรีย์มีความสดชื่นขึ้นมาอีกเยอะ

MP37-3230-e อีกหนึ่งจุดเด่นของ SLC 300 AMG Dynamic ต้องยกให้ระบบขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 245 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ถ้าเทียบกับ SLK 200 ตัวเดิมที่ผมเคยขับ วางเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ ประกบเกียร์ 7 สปีด ต้องบอกว่ารุ่นใหม่เหนือชั้นกว่ามาก

กล่าวคือ เด็ดขาดกว่าทั้งความแรง อัตราเร่ง แต่แฝงความนุ่มนวลในการตอบสนองต่อแรงกดของเท้าขวา(คนขับ)
…เรียกว่าแรงแบบแอบแฝงความสุภาพ จากจุดหยุดนิ่งออกตัวไล่ความเร็วไปถึง 100 กม./ชม. ใช้เวลาไม่ถึง 6 วินาที การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีโหมด Dynamic Select เลือกได้ว่าจะเอา Eco Comfort Sport หรือ Sport+ ขณะเดียวกันในแต่ละโหมดคุณยังเข้าไปเลือกการตอบสนองของขุมพลัง เกียร์และการควบคุมได้แบบเฉพาะตัวอีกด้วย

MP37-3230-b อย่างไรก็ตาม การเลือกโหมดต่างๆ น่าจะรับรู้การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของระบบขับเคลื่อนและการควบคุมเท่านั้นครับ เพราะในส่วนช่วงล่างก็ยังไม่ค่อยนุ่มนวลไม่ว่าจะอยู่ในโหมดไหน ด้วยโครงสร้างรถและการใช้ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ประกบยางแก้มเตี้ยอย่างไรเสีย คุณจะรับรู้อาการสะท้านจากพื้นถนนมาระดับหนึ่งอยู่แล้ว

รถสปอร์ตขับสนุก คล่องแคล่วว่องไว ช่วงล่างหนึบแน่น ดังนั้นถ้าต้องการความสบาย รถคันนี้คงไม่ใช่คำตอบ ซึ่งความสามารถในการปรับโหมด Dynamic Select ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเรื่องความนุ่มสบายเท่าไหร่นัก

ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหลังเหลือไม่มากครับ สามารถใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กได้แต่ถ้าขนาดเกินกว่านี้ไม่ไหว เพราะส่วนหนึ่งต้องแบ่งพื้นที่ให้ชุดพับหลังคาแข็ง

ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมัน สำหรับการขับเฉลี่ยๆในเมือง-นอกเมือง(ความเร็ว 100-120 กม./ชม.)เห็นตัวเลขประมาณ 7.4 ลิตรต่อ 100 กม. หรือ 13.51 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...สปอร์ตคาร์ชั้นดีที่ได้เครื่องยนต์และเกียร์ชุดใหม่ ให้ความกระปรี้กระเปร่า จัดหนักอัดเต็มทุกย่านความเร็ว กับรุ่นย่อย SLC 300 ในราคานี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สร้างความประหลาดใจอีกแล้ว

ขณะที่คู่แข่งอย่าง “บีเอ็มดับเบิลยู แซด4” ยุติการทำตลาด ส่วน“ปอร์เช่ บ๊อกซเตอร์” ราคาโดดไปกว่า 7 ล้านบาท ดังนั้นใครกำลังมองหาโรดสเตอร์หรูทางเลือกตอนนี้ชี้เป้ามาที่ SLC ครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,230 วันที่ 26 - 28 มกราคม 2560