“ภูเก็ตนำแสง”ประเมินตลาดรถจักรยานยนต์ปี 60 ทรงตัว ขณะที่ปี 59 ได้อานิสงส์จากธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้ลูกค้าซื้อรถเพื่อนำไปทำรถเช่า พร้อมเดินหน้ารุกต่อเนื่อง ทั้งอัดแคมเปญ จัดไฟแนนซ์ มั่นใจสิ้นปียอดเข้าเป้าโต 16 %
นายสมชาย จันทร์ชูวณิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ตนำแสง จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2560 ในจังหวัดภูเก็ต เบื้องต้นน่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ดีต้องรอดูทิศทางของนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของภาครัฐฯว่าจะขับเคลื่อนไปอย่างไร รวมไปถึงการเลือกตั้งว่าจะส่งผลทำให้ตลาดคึกคักหรือไม่
ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ในภูเก็ตตั้งแต่เดือนมกราคม- ตุลาคม 2559 พบว่า ภาพรวมตลาดมีการเติบโตประมาณ 10 % เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับความนิยม และผู้ประกอบธุรกิจรถจักรยานยนต์ให้เช่ามีการซื้อรถใหม่ โดยมีการประเมินว่าความต้องการรถจักรยานยนต์ในภูเก็ตจะอยู่ที่ 1 หมื่นคันต่อปี และยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น เพราะอัตราการถือครองรถต่อจำนวนประชากรยังมีน้อย
“ตลาดรถจักรยานยนต์ในจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่ปี 2557 – 2558 อยู่ในภาวะทรงตัว เพราะมีปัญหาหลายอย่างเข้ามากระทบไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง แต่ปี 2559 ในช่วง 9 เดือนแรกถือว่าดี และชะลอตัวเล็กน้อยหลังจากรัฐบาลมีการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปบางส่วน อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆเข้ามาทดแทน ไม่เพียงเท่านั้นช่วงปลายปีจะเป็นหน้าขายรถ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรรถเช่าที่จะตัดสินใจซื้อรถตั้งแต่ 3 – 5คันเป็นต้นไป เพื่อนำไปประกอบธุรกิจ”
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภูเก็ตนำแสงเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในจังหวัดภูเก็ต โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 25 % และมี 8 สาขาให้บริการ ได้แก่ ในเมือง 5 สาขา และอีก 3 สาขา กระจายอยู่ที่ 5 แยกฉลอง,ถลาง,กมลา โดยบริษัทฯวางเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2559 คาดว่าจะเติบโต 16 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งกลยุทธ์หลักที่บริษัทฯนำมาใช้คือการจัดทำแคมเปญโปรโมชัน อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษ ,ให้บริการสินเชื่อทั้งไฟแนนซ์ของบริษัทฯและสถาบันการเงินต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า นอกจากนั้นแล้วยังเข้าหาลูกค้าในพื้นที่ต่างๆด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า
“ผู้แทนจำหน่ายฮอนด้าในจังหวัดภูเก็ตมีจำนวน 5 ราย และมีเอาต์เล็ตทั้งหมด 30 แห่ง โดยตัวเลขการขายรวมของฮอนด้าคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70 – 80 % ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ภูเก็ตมีความหลากหลาย แต่สำหรับลูกค้าของภูเก็ตนำแสงจะเป็นต่างชาติประมาณ 20 % และคนไทย 80 % ส่วนรถยอดนิยมที่ลูกค้าซื้อจะเป็นกลุ่มครอบครัว 50 % และกลุ่มเอที 50 % ด้านพฤติกรรมการซื้อขายแต่เดิมจะเป็นเงินสด 70 % แต่ตอนนี้สัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือ 50 % และอีก 50 % เป็นการซื้อผ่านไฟแนนซ์ ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,224 วันที่ 5 - 7 มกราคม พ.ศ.2560