BMW330e M Sport ไฮบริด ประหยัด รักษ์โลก

08 ต.ค. 2559 | 10:00 น.
เมื่อเร็วๆ นี้ บีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัว BMW330e M Sport รถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด รุ่นถัดจาก BMW i8 เป็นนวัตกรรมที่ครบเครื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยและความหรูหรา ได้รับการออกแบบเพื่อสุนทรียะในการขับขี่ของผู้โดยสารประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี iPerformance โดยตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 3.099 ล้านบาท

[caption id="attachment_103531" align="aligncenter" width="500"] BMW330e M Sport BMW330e M Sport[/caption]

BMW330e M Sport เป็นรถปลั๊กอิน ไฮบริด ที่ปราดเปรียว ใช้งานง่ายเหมือนรถทั่วไป ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดตกแต่งรอบคันดีไซน์ M พวงมาลัย มัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแท้แบบ M ขอบหน้าต่างสีดำ ไฟหน้าแบบ LED กล้องแสดงภาพด้านหลังของตัวรถ ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างแบบตัดแสงในที่มืดระบบ Comfort access ระบบควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง ระบบไฟหน้าและใบปัดน้ำฝนทำงานโดยอัตโนมัติ ภายในห้องโดยสาร หรูหรา แฝงความสปอร์ต เบาะนั่งหนังแท้ Dakota เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบความจำเฉพาะฝั่งคนขับ ชุดไฟส่องสว่างภายในและนอกห้องโดยสาร เบาะนั่งตอนหน้าแบบสปอร์ต ม่านบังแดดกระจกหลังไฟฟ้า พนักวางแขนระหว่างเบาะนั่งตอนหน้าแบบปรับเลื่อนได้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบควบคุม 2 โซน กระจกมองหลังแบบตัดแสงในที่มืด

[caption id="attachment_103533" align="aligncenter" width="500"] BMW330e M Sport BMW330e M Sport[/caption]

เมื่อเข้าไปลองขับ กดปุ่มสตาร์ต หน้าจอขึ้นกราฟิกรูปมาตรวัดความเร็วและมาตรวัดรอบเครื่อง แต่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เพราะใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า จนเมื่อไฟฟ้าในแบตเตอรี่เหลือน้อย เครื่องยนต์จะสตาร์ตขึ้นให้รู้สึกเบาๆ เพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ BMW330e M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรขุมพลังเบนซิน 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ที่ทรงพลังที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งได้รับรางวัล International Engine of the Year มาแล้วถึง 2 ครั้ง สามารถส่งกำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด 290 นิวตันเมตร สู่ล้อรถได้อย่างราบรื่นในทุกรอบเครื่อง ซึ่งนับเร่งแซงได้อย่างน่าพอใจ

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 88 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะที่พร้อมตอบสนองในเสี้ยววินาทีด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า ทำงานประสานกันกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะเพื่อให้ขับขี่ ได้สนุก เร่งแซงได้ทันใจมาก ผมยังสามารถเลือกขับขี่โดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวให้เหมือนรถพลังไฟฟ้า ซึ่งทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม. นอกจากนี้ BMW330e M Sport มีสามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กม./ชม.เมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้จะมอบกำลังสูงถึง 252 แรงม้า ให้เร่งความเร็วได้อย่างใจนึก เห็นเป็นรถปลั๊กอิน ไฮบริด แต่พละกำลังไม่ใช่เล็กๆนะครับ แม้จะแรงจัด แต่ก็ประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 41.7กม./ลิตร และลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 57 กรัม/กม.เท่านั้น นับว่าเป็นอัตราที่น้อยที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยสำหรับประเภทรถยนต์นั่งแบบซีดาน ส่วนรถที่มีอัตราการปล่อย CO2 น้อยที่สุดอันดับหนึ่งในรถยนต์ทุกประเภท รวมถึงรถยนต์ Eco Car คือ BMWi8 ที่มีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 49 กรัม/กม.เท่านั้น

[caption id="attachment_103532" align="aligncenter" width="500"] เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ใน BMW330e M Sport เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ใน BMW330e M Sport[/caption]

เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ใน BMW330e M Sport สามารถนำสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และยังสามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสียเลยในระยะ 40 กม. แบตเตอรี่ของรถมีความจุ 7.6 กิโลวัตต์/ชม.และสามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยมีช่องเก็บสายชาร์จอยู่ใต้พื้นที่เก็บสัมภาระตอนท้าย เมื่อแบตเตอรี่หมด สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านให้เต็มได้โดยใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง หรือเลือกเสริมประสิทธิภาพการชาร์จด้วยอุปกรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์เพียว(BMW iWallbox Pure) ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.7 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/230 โวลต์) จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 12 นาที

โดยภาพรวมแล้ว BMW330e M Sport มาพร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ใหม่ล่าสุดที่ให้สมรรถนะโดดเด่น ปราดเปรียว แต่ประหยัดน้ำมัน และยังรักษ์โลก ปล่อยไอเสียน้อยมาก สามารถเลือกระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือ เครื่องยนต์ หรือผสมผสานทั้งสองระบบไปพร้อมๆกัน ซึ่งนับว่า เหมาะสมกับการใช้ในไทยที่สุดแล้ว อย่าเพิ่งเลยเถิดคิดไปถึงรถไฟฟ้าเพียวๆเลยครับ เพราะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 10 ปี ถึงจะมีความพร้อมจริงๆ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,197 วันที่ 2 - 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559