ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ปลื้ม ผู้ถือหุ้นจองสิทธิ์ RO ล้น 147%

16 มิ.ย. 2564 | 09:33 น.

ดิ เอราวัณ กรุ๊ป หรือ ERW ปลื้ม ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ์เพิ่มทุนทะลุ 147% จาก 2,014 ล้านหุ้น เดินหน้าระดมทุนอีก 1 พันล้าน จากการใช้สิทธิ์วอแรนซ์อีก 3 ปี เสริมแกร่งทางการเงิน

นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการเสนอขาย หุ้นเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 2,014 ล้านหุ้น ให้กับ ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering: RO ) ในอัตรา 1.25 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาขาย  1 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 7-11 มิถุนายน ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี โดยมีผู้ถือหุ้นขอใช้สิทธิเต็มตามสัดส่วนที่บริษัทกำหนดไว้

เพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW

 

ขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นก็ได้แสดงความจำนงขอจองซื้อมากกว่าสิทธิที่ตนเองได้รับอีกเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณความต้องการหุ้นเพิ่มทุนสูงถึง  147% ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่บริษัทกำหนดไว้ โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้นทุกกลุ่ม ทั้งสถาบันในประเทศ ต่างประเทศ และรายย่อย ซึ่งบริษัทฯ ยังตั้งเป้าระดมทุนเพิ่มอีก 1 พันล้านบาท ผ่านการออกใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอแรนต์) ให้กับผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ RO เช่นกัน กำหนดอายุใช้สิทธิ 3 ปี ในราคาใช้สิทธิที่ 3.00 บาท

“เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการเงินของบริษัท อีกทั้งยังช่วยให้มีโครงสร้างเงินทุนหรืออัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสมต่อการขยายธุรกิจ เพิ่มความมั่นใจในการดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุนระยะยาวตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท ทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากเป็นกลุ่มโรงแรมที่มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการปรับตัวที่ยืดหยุ่นที่สุดท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19”นายเพชรกล่าว

โรงแรมในเครือ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป

สำหรับการดำเนินงาน ณ ปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โรงแรมทุกแห่งของบริษัทยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยสูงที่สุด โดยบริษัทได้มีการสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจต่อลูกค้าที่เข้าใช้บริการในโรงแรม นอกจากนี้บริษัทยังคงอยู่ภายใต้มาตรการบริหารจัดการต้นทุนและรักษากระแสเงินสดให้มีสภาพคล่องมากที่สุดภายใต้สถานการณ์นี้

 

อย่างไรก็ตามเราเชื่อมั่นว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่กำลังดำเนินการอยู่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย อีกทั้งแผนการเปิดประเทศไทยเพื่รับนักท่อองเที่ยวต่างชาติที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้นในอนาคต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: