ตื่นปัจจัยลบรอบด้าน หุ้นไทยปิดดิ่ง 23.72 จุด

13 พ.ค. 2564 | 10:02 น.

หุ้นไทยปิดลบ 23.72 จุด วอลุ่ม 1.4 แสนล้านบาท รับแรงขายตามเพื่อนบ้าน หลังกังวลเงินเฟ้อเร่งตัว หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยตาม และตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศทรงตัวระดับสูง กดดันระหว่างวันดิ่งต่ำสุด 70 จุด

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน รับแรงขายตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยขึ้นและลดการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) หลังตัวเลข CPI สหรัฐเดือนเมษายนพุ่งสูงเกินคาด บ่งบอกถึงภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัว รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง กระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังขายต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังทรงตัวระดับสูง และเสียชีวิตต่อเนื่อง อีกทั้งพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำเป็นจำนวนมากโดยระหว่างวันลดลงต่ำสุด ที่ 1,501.32 จุด ลดลง 70.83 จุด หรือ 4.50% ก่อนมีแรงซื้อกลับส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,548.13 จุด ลดลง 23.72 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 143,714.02 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,561.80 จุด 

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

CPALL ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6,435.90 ล้านบาท

TIDLOR ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,998.81 ล้านบาท

STA ปิดที่ 46.50 บาท ลดลง 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,382.07 ล้านบาท

KBANK ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,250.57 ล้านบาท

STGT ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,506.38 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

DELTA ปิดที่ 484.00 บาท ลดลง 74.00 บาท มีผลต่อดัชนี -8.0671 จุด

CPALL ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 2.75 บาท มีผลต่อดัชนี -2.159 จุด

GULF ปิดที่ 32.75 บาท ลดลง 1.00 บาท มีผลต่อดัชนี -1.0254 จุด

IVL ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 1.25 บาท มีผลต่อดัชนี -0.6134 จุด

EA ปิดที่ 60.00 บาท ลดลง 1.50 บาท มีผลต่อดัชนี -0.489 จุด