คุมเข้มราชการเบิกค่ายา หลังพบพิรุธ 24 คน เสียหาย 15 ล้าน

22 เม.ย. 2564 | 08:51 น.

“กรมบัญชีกลาง “ออกเกณฑ์คุมเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการเกินจริง หลังพบใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงผิดปกติ 24 ราย วงเงิน 15 ล้านบาท พร้อมสั่งระงับสิทธิชั่วคราว รอผลต้นสังกัดสอบวินัย

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า  ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกของข้าราชการ พบว่าผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวจำนวน 24 ราย มีพฤติกรรมใช้สิทธิระบบเบิกจ่ายตรงผิดปกติ โดยเข้ารับบริการในสถานพยาบาลหลายแห่งระยะเวลาใกล้เคียงกัน หรือมีการเข้ารับบริการเกิน 3 สถานพยาบาลต่อเดือน ด้วยโรคเดียวกัน อีกทั้งได้รับยาประเภทเดียวกัน จนมีปริมาณยาสะสมจำนวนมาก คิดเป็นเงินจำนวน 15.80 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ระงับสิทธิของบุคคลดังกล่าวทุกรายโดยทันทีที่ตรวจสอบพบ

ประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง

จากกรณีดังกล่าว กรมบัญชีกลางจึงกำหนดหลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิและการเรียกคืนเงิน เพื่อควบคุมการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง โดยผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเข้ารับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ณ สถานพยาบาลของทางราชการแห่งเดียวหรือหลายแห่ง หรือได้รับยาประเภทเดียวกันจนมีปริมาณยาสะสมเป็นจำนวนมาก เกินขนาดที่ให้ผลการรักษาในแต่ละโรค หรือเกินกว่าจำนวนที่กรมบัญชีกลางกำหนด ถือเป็นการใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาลเกินสิทธิ  ถือว่ามีพฤติกรรม เบิกจ่ายผิดปกติ กรมบัญชีกลางจะระงับสิทธิทันที และหากเข้าข่ายทุจริตหรือการกระทำความผิดทางอาญา หน่วยงานต้นสังกัดต้องดำเนินการทางวินัยหรือตามขั้นตอนของกฎหมายและเรียกคืนเงินจากผู้มีสิทธิส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน หากตรวจสอบว่าไม่ได้ทุจริต กรมบัญชีกลางจะอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ เบิกจ่ายตรงได้โรงพยาบาลเพียงแห่งเดียว เพื่อควบคุมพฤติกรรม

ส่วนสถานพยาบาลรัฐ หากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมทุจริต โดยใช้ระบบเบิกจ่ายตรงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ส่วนราชการต้นสังกัดต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว และเรียกคืนเงินจากสถานพยาบาลของทางราชการแห่งนั้น ขณะที่ส่วนราชการต้นสังกัดมีหน้าที่ติดตามเรียกคืนเงินที่เบิกเกินสิทธิจากผู้มีสิทธิ และนำเงินส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน หากไม่สามารถเรียกคืนเงิน ต้องมีการบังคับชำระหนี้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แล้วนำเงินส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน  โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป