อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับประมาณ 30.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังในระหว่างวันแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนครั้งใหม่ที่ 30.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันทำการก่อนหน้าที่ 30.49 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงตามแรงขายสกุลเงินเอเชียในภาพรวม ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) ซึ่งมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนนี้ นอกจากนี้เงินบาทที่อ่อนค่ายังสอดคล้องกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 25.77 ล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตรไทย 3,167 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนจากข้อมูลของธนาคาร 10 แห่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2564 โดยธปท. อยู่ที่ -0.87 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 3.53 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 30.50-31.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่ทิศทางบอนด์ยีลด์ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ รวมถึงกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งจะทำการโหวตมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฉบับที่ผ่านวุฒิสภาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 4/2563 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน และดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ