อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 30.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 30.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินในภูมิภาค ประกอบกับมีแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุน โดยมีปัจจัยกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวัง ประกอบกับตลาดรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้
สำหรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,200.36 ล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตรไทยที่ 1,080 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนจากข้อมูลของธนาคาร 10 แห่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2563 โดยธปท. อยู่ที่ -2.10 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 2.43 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า คาดไว้ที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการดูแลเงินบาทระยะที่ 2 ของธปท. ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ ปัจจัยทางการเมืองและสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) สำหรับเดือนธ.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และการประชุม EU Summit และข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ย.ด้วยเช่นกัน