อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.19 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน กรอบเงินบาทวันนี้ 30.10-30.30 บาทต่อดอลลาร์
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS CIO)ระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีทั้งแรงซื้อดอลลาร์ของนักลงทุนในประเทศสลับกับแรงขายของผู้ส่งออก อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงรอดูกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายเป็นหลัก เชื่อว่าจุดเปลี่ยนจะอยู่ที่ตลาดหุ้นโลก ซึ่งมีโอกาสผันผวนในช่วงที่เหลือของเดือนธันวาคม
สำหรับตลาดการเงินเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงคืนที่ผ่านมา เห็นได้จากดัชนี S&P 500 ของสหรัฐที่ปรับตัวลง 0.1% และดัชนี STOXX 600 ของยุโรปที่ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียงราคาน้ำมันดิบและทองคำที่ปรับตัวขึ้น 0.5 ถึง 0.8% สะท้อนภาพการอ่อนค่าของดอลลาร์และความเชื่อว่ากลุ่ม OPEC+ จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต
ฝั่งเศรษฐกิจ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสหรัฐ (U.S. initial jobless claims) ปรับตัวลงมากกว่าคาด 6.6หมื่นตำแหน่งมาที่ระดับ 7.12 แสนตำแหน่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (U.S. ISM Services Index) กลับปรับตัวลงมาที่ระดับ 55.9จุดเช่นกัน จึงทำให้นักลงทุนไม่วางใจในภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ด้านตลาดเงินดัชนีดอลลาร์ทยอยปรับตัวลงต่อ 0.5% โดยกลับเป็นสกุลเงินหลักอย่างเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และปอนด์อังกฤษ (GBP) ที่แข็งค่ามากที่สุด ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีปรับตัวลง 2bps มาที่ 0.92% สะท้อนภาพนักลงทุนที่ระวังตัวเพื่อรอการประกาศตัวเลขตลาดแรงงานในสหรัฐคืนนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเช้านี้ (4 ธ.ค.) อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 30.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอาจยังเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างแคบ แต่มีแรงหนุนด้านแข็งค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยลบต่อเนื่องจากข้อมูล ISM ภาคบริการที่น่าผิดหวัง โดยดัชนีปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันมาอยู่ที่ 55.9 ในเดือนพ.ย. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 56.0 อย่างไรก็ดีตลาดรอติดตามและประเมินท่าทีดูแลค่าเงินบาทจากทางการอย่างใกล้ชิด
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ตลาดรอติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์ ปัจจัยทางการเมืองและสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ