ทองคำขาลง โอกาสฟื้นยาก

04 ธ.ค. 2563 | 10:00 น.

“จิตติ-ธนรัชต์”เตือนราคาทองคำขาลงและผันผวน แนะติดตามข้อมูลใกล้ชิด สมาคมค้าทองคำระบุอย่าตกเป็นเครื่องมือกองทุนเก็งกำไร ค่ายฮั่วเซ่งเฮงคาด มีโอกาสจะเห็น 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้ ราคาทองคำ พุ่งทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2563 ที่ระดับ 2,076 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่หลังมีกระแสข่าวความคืบหน้าการพัฒนา วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กดดันให้เกิดแรงเทขายทองคำออกมา ส่งผลให้ ราคาทองคำ ปรับลงอย่างต่อเนื่อง 

 

ประกอบกับหลังจากมีกระแสข่าว No-Deal Brexit ระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป ทำให้สกุลเงินปอนด์ร่วงลง กดดันให้ ราคาทองคำ ปรับตัวลดลงแรงตาม กระทั่งหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาและเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,799 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นปัจจัยกระตุ้นแรงขายทางเทคนิค ขณะที่ในประเทศไทยราคาทองคำปรับลดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราคาทองคำขาลง  หลังทั้งปีทำนิวไฮกำไรพุ่ง 22%

"ราคาทอง" มีโอกาสลงแตะ 25,300 บาท

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายก สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้ม ราคาทองคำ อยู่ในช่วงขาลงและผันผวนตามสถานการณ์ เนื่องจากช่วงนี้สหรัฐอยู่ระหว่างรอการส่งมอบตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2564 จึงมีประเด็นที่ต้องติดตามเชิงนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่(นายโจ ไบเดน) ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งมีผลต่อการค้าโลกและเศรษฐกิจ และพัฒนาการของวัคซีนที่จะนำออกมาใช้ในปีหน้า

 

ทองคำขาลง โอกาสฟื้นยาก

“การวิเคราะห์อาจอยู่นอกเหนือความคาดหมาย หากระหว่างทางเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น กรณีคลังนํ้ามันระเบิดในเลบานอน ทำให้ทองคำราคาพุ่งขึ้นไปเกินกว่า 3 หมื่นบาท ทั้งที่่ช่วงนั้น ส่วนตัววิเคราะห์ว่า ราคาไม่ถึง 3 หมื่นบาท แต่หลังจากเกิดเหตุคลังนํ้ามันระเบิดเมื่อ 7 สิงหาคม จากนั้นราคาทองคำทยอยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่กลับมาอยู่ในทิศทางขาลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ดังนั้นจึงต้องติดตามเหตุการณ์นอกเหนือการคาดการณณ์ระหว่างทางอีกด้วย” 

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตลาดเป็นห่วงกรณีที่ไบเดน อัดฉีดเม็ดเงิน ซึ่งจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่หลังจาก 20 มกราคม 2564 ยังมองราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับลดลงอีก และคงไม่มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำเพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งผู้ลงทุนทองคำต้องพิจาณาสถานการณ์ให้รอบด้าน นอกจากการนำวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากทางการออกมาใช้ได้จริง หรือนโยบายของสหรัฐ รวมถึงอาจมีข่าวหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างทางด้วย

 

ทองคำขาลง โอกาสฟื้นยาก  

อย่างไรก็ตาม SPDR ซึ่งเป็นกองทุนใหญ่ที่สุดของสหรัฐ มีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย แต่ต้นปีนี้ SPDR ซื้อทองคำจำนวนมาก ตั้งแต่ราคา 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ จนถึงระดับราคากว่า 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ตอนนี้ SPDR เริ่มทยอยขายทองคำมาเป็นระยะและมีแนวโน้มจะขายออกอีก ดังนั้นนักเก็งกำไรต้องดูข้อมูลอย่างอื่นประกอบ เพราะข้อมูลที่ออกมา อาจจะเป็นการปล่อยข่าว ทำให้ราคาทองคำปรับลดลง โดยไม่มีเหตุผล หากหลงเชื่อก็จะกลายเป็นเครื่องมือของกองทุนเก็งกำไร

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ภาพรวม ราคาทองคำปี 2563 ตั้งแต่ต้นปีมีการปรับตัวบวกค่อนข้างมาก จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมีนาคม คนเริ่มแห่นำทองคำออกขายจำนวนมาก แต่ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ราคาทองคำ Spot ปรับขึ้นร้อนแรงและทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,074 ดอลลาร์ในวันที่ 7 สิงหาคม เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562 และราคาทองแท่งในประเทศทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 30,400 บาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562 

 

ปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำมีหลายประเด็นทั้งการระบาดของโควิด-19 ทำให้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกตํ่าครั้งใหญ่ (Great Depression) ในช่วงทศวรรษ 1930 มาตรการผ่อนคลายทางการคลังและการเงินทั่วโลก เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจ เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงตํ่าสุดในรอบกว่า 2 ปี ความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ และการเข้าซื้อทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำ

 

ช่วง 10 เดือนปี 2563 กองทุนอีทีเอฟเข้าซื้อทองคำสุทธิสูงถึง 1,022 ตัน เทียบทั้งปี 62 ที่ซื้อสุทธิ 398 ตัน ถือว่าเป็นการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนทำลายสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2553 ที่มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟทองคำ

 

ทองคำขาลง โอกาสฟื้นยาก

 

สำหรับเดือนพฤศจิกายน ราคาทองคำลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว หลังจากมีข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแรงเทขายทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น ประกอบกับ เริ่มมีแรงเทขายทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำออกมาในปริมาณที่สูงในเดือนพฤศจิกายน ทำให้ราคาทองคำ Spot ลดลงหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคทั้ง 1,850 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อน ที่ 200 วัน 

 

“ฮั่วเซ่งเฮงคาดว่า มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำ 1,750 ดอลลาร์เป็นแนวรับที่ผู้ลงทุน จะกลับไปซื้อในราคา 25,300 บาทและคิดว่าในปี 2564 ทองคำจะได้รับปัจจัยบวกจากเรื่องหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มตามมา หลังจากการใช้มาตรการทางการคลังขนาดใหญ่ของสหรัฐและในยุโรปในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราคาทองวันนี้(4 ธ.ค.) คงที่ ทองคำแท่งขายออก 26,750 บ.

ราคาทองผันผวนหนัก ปรับราคา 11 ครั้ง ลดลง 200 บาท

ระวังเงินร้อน รั้งเศรษฐกิจไทย 2564

คลัง คาด นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้าไทยปีหน้า 8 ล้านคน ดันเศรษฐกิจโต 4-4.5%

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,632 วันที่ 3 - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563