กรุงศรีฯ ประเมินบาท ปีหน้าแตะ 29.25 บาทต่อดอลลาร์

01 ธ.ค. 2563 | 10:50 น.

กรุงศรีฯ ประเมินบาท ปีหน้าแตะ 29.25 บาทต่อดอลลาร์ หลังมองสิ้นปี แข็งไม่เกิน 30 บาทต่อดอลลาร์ คาดไทยเกินดุลสิ้นปีราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์มากกว่าเงินไหลออก

นายตรรก   บุนนาค   ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ต บมจ.ธนาคาร กรุงศรีอยุธยาเปิดเผยว่า ปีหน้าทิศทาง ค่าเงินบาท ยังมีความผันผวนอยู่  โดยมองสิ้นปี 2564 อยู่ที่ระดับ 29.25 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากปิดสิ้นนี้ไม่เกิน 30 บาทต่อดอลลาร์  ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทยังผันผวนในทิศทางแข็งค่าขึ้นแต่ยังไม่แข็งค่า 7-8% เช่นอดีต โดยมองว่า จะแข็งค่าเฉลี่ย 4-5%

 

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทช่วง 11 เดือนของปีนี้ อ่อนค่าประมาณ 1% ขณะที่สกุลเงินหยวนแข็งค่าราว 6% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในภูมิภาคเอเซีย  แต่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีของจีนสามารถขยายตัวได้ดีโดยสู่ระดับก่อนโควิดแล้ว    

กรุงศรีฯ ประเมินบาท ปีหน้าแตะ 29.25 บาทต่อดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตามมองไปข้างหน้าค่าเงินยังมีความผันผวนจึงแนะนำให้ผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน(Hedging)เพิ่มขึ้น หรือหันมาใช้สกุลเงินท้องถิ่นทำการค้ามากขึ้นหรือการป้องกันความเสี่ยง โดยการซื้อสิทธิ์ของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินล่วงหน้า(FX Options)

 

"ปัจจุบันลูกค้าของแบงก์กรุงศรีฯ มีการทำเฮดจ์จิ้งเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะไซส์เอ็มที่ยอดขาย 150-1,000ล้านบาท จากปกติที่ผ่านมาลูกค้าทุกกลุ่มจะทำเฮดจ์จิ้ง 100% ส่วนธุรกรรมการค้าที่เป็นสกุลเงินท้องถิ่น หลักๆจะใช้เงินหยวน และรูเปียห์"

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตธนาคาร กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ปัจจัยที่ชี้นำค่าเงินบาท หลักๆ มาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งมีบทบาทสำคัญ 70-80% โดยเฉพาะทิศทางการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ  จากการดำเนินนโยบายของนายโจ  ไบเดน และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในเดือนนี้ และการขาดดุลแฝดทั้งขาดดุลการคลังและดุลบัญชีเดินสะพัดที่เหลือเป็นปัจจัยภายในประเทศ  ทั้งประเด็นบัญชีเดินสะพัดที่ยังคงเกินดุลเล็กน้อยโดยคาดว่าสิ้นนี้ไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 2หมื่นล้านดอลลาร์ จากปีก่อนที่เกินดุลราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และปี2564คาดว่าจะเกินดุลฯประมาณ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์   

กรุงศรีฯ ประเมินบาท ปีหน้าแตะ 29.25 บาทต่อดอลลาร์

 

"แม้ว่าทั้งปีนี้ไทยจะเกินดุลเล็กน้อยจำนวน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 6 แสนล้านบาทซึ่งมากกว่าเงินทุนไหลออกสุทธิช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ที่ 3.1 แสนล้านบาทซึ่งเป็นยอดขายสุทธิหุ้น  2.6แสนล้านบาทและขายสุทธิบอนด์ 4.8หมื่นล้านบาท" 

กรุงศรีฯ ประเมินบาท ปีหน้าแตะ 29.25 บาทต่อดอลลาร์

นอกจากนี้บัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงเกินดุลเล็กน้อย ขณะที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง สามารถรับมือกับการไหลออกอย่างรวดเร็วของเงินทุน ขณะที่มาตราการของธปท. เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาท  รวมถึงการ Recycle การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในรูปของการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ สำหรับการออกไปลงทุนในต่างประเทศ และยังมีประเด็นอื่นๆที่ต้องติดตาม ได้แก่ การพัฒนาและกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid -19 การปิดเมือง หรือการกลายพันธุ์ และบทสรุป Brexit จะจบอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หวั่นธปท. เพิ่มมาตรการสกัดเก็งกำไรบาท

ธปท.ออกมาตรการคุมเงินบาทเพิ่มเติม 9 ธ.ค.นี้

มาตรการธปท.เตรียมรับมือกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อาจจะมีโอกาสไหลเข้า

ผู้ว่าธปท.รับเล็งหามาตรการเหมาะสมดูแลบาทแข็งค่าเร็ว